นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำ โดยอยู่ที่ รพ.ตำรวจ นานเกินกว่า 120 วัน ถือว่าเข้าเงื่อนไขและปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีการตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นต้น โดยเฉพาะสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน มีตัวแทนขึ้นไปบนชั้น 14 รพ.ตำรวจ และได้พบนายทักษิณ ซึ่งตนเองในฐานะข้าราชการการเมือง ก็เชื่อมั่นว่านายทักษิณนอนพักที่ รพ.ตำรวจ จริง ไม่ได้อยู่ที่คอนโดฯ อย่างที่สังคมเคลือบแคลงสงสัยแน่นอน
นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงความคืบหน้าของระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 ว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งหากคณะกรรมการราชทัณฑ์มีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะ ทางกรมราชทัณฑ์ก็จะต้องรับฟัง อีกทั้งในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิ ก็จะส่งข้อมูลให้กรมราชทัณฑ์ เพื่อเตรียมยกร่างหลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณา แต่ในปัจจุบัน ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำยังไม่ได้มีการดำเนินการใด เพราะต้องรอระเบียบหลักเกณฑ์ แนวทางการปฏิบัตินี้ก่อน
“ผู้ต้องขังในรายคดีใด ที่จะได้รับการละเว้นจากระเบียบดังกล่าว เราต้องใช้ในการจำแนกวิเคราะห์เช่นกัน ว่ารายคดีใดจะได้ประโยชน์ หรือรายคดีใดต้องละเว้น แต่ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะต้องไปศึกษาให้รอบคอบก่อนว่าจะแบ่งกลุ่มอย่างไร ส่วนจำนวนผู้ต้องขังล็อตแรก ที่จะใช้พิจารณาก็ยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอการศึกษาให้รอบด้านก่อน และต้องรอฟังความเห็นจากคณะกรรมการราชทัณฑ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อความรัดกุมที่สุด” โฆษกกรมราชทัณฑ์ ระบุ
ส่วนประเด็นโครงการพักการลงโทษ กรณีมีเหตุพิเศษนั้น โฆษกกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า เรื่องนี้เป็นประโยชน์ของผู้ต้องขังที่มีสิทธิได้รับ แต่การพิจารณาว่าผู้ต้องขังรายใดจะเข้าเกณฑ์โครงการดังกล่าวนั้น ผู้บัญชาการเรือนจำฯ แต่ละแห่งจะเป็นผู้พิจารณาว่าใครมีความเหมาะสมหรือผ่านคุณสมบัติได้รับการพักโทษหรือไม่ ทั้งแบบกรณีมีเหตุพิเศษ และแบบปกติ ซึ่งผู้ต้องขังจะไม่สามารถเสนอตัวเองได้
อย่างไรก็ตาม เรือนจำแต่ละแห่งจะมีการพิจารณาผู้ต้องขังที่ผ่านเกณฑ์พักโทษในทุกเดือน แล้วจึงจะเสนอรายชื่อมายังกรมราชทัณฑ์ เพื่อนำเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณาพักการลงโทษ ซึ่งจัดประชุมในทุกเดือน
ทั้งนี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังไม่ได้รับรายงานจากนายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ถึงประเด็นรายชื่อของนายทักษิณ ชินวัตร ว่าเข้าเกณฑ์โครงการพักการลงโทษหรือไม่
รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า สำหรับคุณสมบัติของนายทักษิณ หากดูจากหลักเกณฑ์ที่เป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นกลาง สูงวัย และมีอาการเจ็บป่วย ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการพิจารณาในโครงการพักการลงโทษ กรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป (นักโทษเด็ดขาดชั้นกลางขึ้นไป) แต่ ณ วันนี้ กรมฯ ยังไม่ได้รับรายงานจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จึงยังไม่มีข้อมูลตรงนี้
ทั้งนี้ หากนายทักษิณ ผ่านเข้าโครงการพักการลงโทษได้จริง กรมคุมประพฤติจะต้องไปหาข้อมูลว่าใครจะเป็นผู้อุปการะผู้ต้องขัง และเมื่อพักโทษจะประกอบอาชีพอะไร และจะต้องรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติอย่างไรบ้าง หรือกำหนดอาณาบริเวณ รวมทั้งการห้ามเดินทางออกนอกประเทศ หรือแม้แต่การติดกำไล EM ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการพักการลงโทษที่จะพิจารณา
ส่วนบทบาททางการเมือง ในระหว่างการพักโทษนั้น เห็นว่าสามารถกระทำได้ หากไม่เป็นการฝ่าฝืนหรือไปทำอะไรที่ผิดระเบียบ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ม.ค. 67)
Tags: กรมราชทัณฑ์, กระทรวงยุติธรรม, ทักษิณ ชินวัตร, พักโทษ, สมบูรณ์ ม่วงกล่ำ, เรือนจำ, โรงพยาบาลตำรวจ