นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้หารือกับนายสเตฟาน บุทซ์ ผู้บริหารบริษัท DKSH Holding AG ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาและแนะนำในการทำธุรกิจ เช่น การขยายการตลาด การวางแผนธุรกิจ การกระจายสินค้า โลจิสติกส์ และการบริการหลังการขาย รวมถึงมีการนำผลิตภัณฑ์และสินค้าอุปโภค บริโภค ยา เวชภัณฑ์ เข้ามาจำหน่ายในไทยมากมายหลายประเภท
นายกรัฐมนตรี และผู้บริหารบริษัท DKSH ได้หารือเกี่ยวกับปัญหาการจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งจากการที่มีโรคระบาดใหม่ๆ เกิดขึ้น ทำให้บริษัทฯ ต้องใช้กระบวนการและระยะเวลาในการเข้ามาจัดจำหน่ายในไทยยาวนาน ซึ่งรัฐบาลจะรับไปแก้ปัญหา เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อบริษัทและต่อประชาชนไทย ที่ต้องการใช้ยาและเวชภัณฑ์ในการรักษาโรค
ทั้งนี้ DKSH เข้ามาประกอบธุรกิจในไทย ตั้งแต่ปี 2449 (ค.ศ.1906) เป็นหนึ่งในองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศในด้านยอดขาย และไทยนับเป็นประเทศที่มีการดำเนินกิจการที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม DKSH สามารถสร้างรายได้ 1 ใน 3 ของรายได้รวมของบริษัททั่วโลก มีความเข้าใจในการทำธุกิจในไทย และมีการจ้างงานผู้หญิงคิดเป็นสัดส่วนจำนวนมาก ไทยจึงเป็นตลาดสำคัญของบริษัทฯ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความเชี่ยวชาญทางด้านโลจิสติกส์ ซึ่งไทยมีโครงการ Landbridge ที่บริษัทสามารถเข้ามีส่วนร่วมได้ โดยโครงการนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย และบริษัทฯ จะได้รับผลประโยชน์จากโครงการนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังจะส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในการขนส่งสินค้า ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทย โดยยืนยันที่จะส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมจะสนับสนุนเพิ่มการติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าให้เพิ่มมากขึ้น
โอกาสนี้ บริษัทยืนยันและมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทย รวมทั้งพร้อมที่จะเชิญชวนบริษัทพันธมิตรมาร่วมลงทุนในไทยมากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ม.ค. 67)
Tags: DKSH, DKSH Holding AG, ธุรกิจ, เศรษฐา ทวีสิน, โลจิสติกส์