ตลาดหุ้นอินเดียพุ่งสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2566 เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกและนักลงทุนในประเทศหันมาลงทุนกันมากขึ้น แต่นักวิเคราะห์เตือนว่าจะไม่ได้เห็นมุมมองเชิงบวกดังเช่นที่เกิดขึ้นในปีก่อนอีกจนกว่าอินเดียจะเสร็จสิ้นการเลือกตั้งทั่วไป
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ดัชนี Nifty 50 และ BSE Sensex ของตลาดหุ้นอินเดียปรับตัวขึ้นกว่า 6% นับตั้งแต่สรุปผลการเลือกตั้งระดับรัฐในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนธ.ค. โดยพรรคภารตียชนตา (BJP) ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แห่งอินเดียคว้าชัยชนะใน 3 จาก 4 รัฐ
ทั้งดัชนี Nifty 50 และ BSE Sensex พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 22,081.95 และ 73,000 ตามลำดับ ในการซื้อขายภาคบ่ายของวันจันทร์ (15 ม.ค.)
อินเดียมีกำหนดจัดการเลือกตั้งทั่วไประหว่างเดือนเม.ย.-พ.ค.
“เวลานี้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าพรรค BJP จะคว้าชัยชนะ โดยก่อนการเลือกตั้งระดับรัฐนั้นเกิดความไม่แน่ใจว่าพรรค BJP จะคว้าชัยชนะได้ แต่ขณะนี้ไม่มีข้อกังขาอีกต่อไปแล้ว” ปิยุช มิตทัล ผู้จัดการพอร์ตของบริษัทแมตธิว เอเชีย ระบุ
นายมิตทัลระบุว่า ตลาดหุ้นอินเดียได้ปรับตัวรับปัจจัยบวกมากมายไปแล้วและนักลงทุนอาจเห็นหุ้นอินเดียปรับตัวขึ้นในอัตราเลขหลักเดียวที่ 3%-5% ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปจะเปิดฉากขึ้น
นายชานทานุ ภารกาวา กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายการลงทุนบริษัทจดทะเบียนของบริษัทวอเตอร์ฟีลด์ แอดไวเซอร์สระบุว่า ในการเลือกตั้งทั่วไปตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นอินเดียปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 18% ในช่วง 6 เดือนก่อนการเลือกตั้ง, ปรับขึ้น 8% ในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง, ปรับขึ้น 2% ในช่วงหลายเดือนหลังประกาศผลเลือกตั้ง และปรับขึ้น 10% ในช่วงครึ่งปีหลังการเลือกตั้ง
“หากคุณเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต นักลงทุนปรับตัวรับปัจจัยเชิงบวกไปมากแล้ว และปรับตัวรับชัยชนะของรัฐบาลชุดปัจจุบันไปแล้ว” นายภารกาวาระบุ พร้อมกล่าวเสริมว่า ตลาดหุ้นอินเดียได้ปรับตัวรับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดไปแล้ว
นักวิเคราะห์เชื่อว่าหุ้นอินเดียจะพุ่งขึ้นครั้งใหญ่อีกครั้งก็ต่อเมื่อธนาคารกลางอินเดียลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ม.ค. 67)
Tags: การเลือกตั้ง, ตลาดหุ้นอินเดีย, นักลงทุน