เก็ง BOJ ยุตินโยบายดอกเบี้ยติดลบภายในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ หากค่าแรงญี่ปุ่นพุ่ง 4%

นายเออิจิ มาเอดะ อดีตผู้อำนวยการบริหารของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดการณ์ว่า ผลการเจรจาค่าจ้างประจำปี หรือที่เรียกว่า “ชุนโต (Shunto)” ระหว่างฝ่ายบริหารและสหภาพแรงงานญี่ปุ่น จะนำไปสู่การปรับขึ้นค่าจ้างราว 4% ซึ่งจะปูทางให้ BOJ ยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบภายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้ (มี.ค.-พ.ค.)

“มีความเป็นไปได้ที่ผลการเจรจาค่าจ้างในฤดูใบไม้ผลิจะมีการปรับขึ้นค่าจ้างในปีนี้สูงขึ้นถึง 4% ซึ่งจะทำให้ BOJ สามารถยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ เนื่องจากกลไกการกำหนดราคาในเชิงบวกของ BOJ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และเรามองว่าขณะนี้เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังอยู่ในวงจรที่เหมาะสมระหว่างค่าจ้างและเงินเฟ้อ” นายมาเอดะกล่าวกับผู้สื่อข่าว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักลงทุนในตลาดการเงินกำลังจับตาการเจรจาค่าจ้างรายปีอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ BOJ เป็นธนาคารกลางรายสุดท้ายที่ยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ โดยการเจรจาค่าจ้างรายปีนั้น เป็นหนึ่งในเหตุผลที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BOJ จะรอดูข้อมูลนี้จนถึงเดือนเม.ย. ก่อนที่จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550

นายมาเอดะคาดการณ์ว่า การเจรจาค่าจ้างในปีนี้ จะนำไปสู่การปรับขึ้นค่าจ้างในอัตราที่สูงกว่าปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.58% โดยได้แรงหนุนจากการที่ภาคเอกชนสามารถทำกำไรได้สูงเป็นประวัติการณ์และจากภาวะตลาดแรงงานที่ตึงตัวมากขึ้น โดยหากค่าจ้างมีการปรับขึ้น 4% ตามที่นายมาเอดะคาดการณ์ ก็จะถือเป็นการปรับขึ้นค่าจ้างในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2535

ทั้งนี้ ผลการเจรจาเบื้องต้นจากสหภาพการค้าของญี่ปุ่น (Rengo) จะมีการประกาศในวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งจะเกิดขึ้นก่อนการประชุม BOJ ในเดือนดังกล่าว

ปัจจุบัน นายมาเอดะดำรงตำแหน่งประธานสถาบัน Chibagin Research Institute โดยเขาได้ลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการบริหาร BOJ ในปี 2565 หลังจากที่ทำหน้าที่สำคัญในด้านการกำหนดนโยบายให้กับ BOJ เพื่อรับมือกับโรคระบาด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ม.ค. 67)

Tags: , , , , , ,
Back to Top