จีนเรียกร้องให้จัดการประชุมสันติภาพครั้งใหญ่เพื่อแก้ไขวิกฤตในกาซา

ภาพ: รอยเตอร์

นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวว่า สงครามในฉนวนกาซายังคงทวีความรุนแรง และจีนเรียกร้องให้มีการจัดการประชุมสันติภาพระหว่างประเทศที่มีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น มีอำนาจมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกำหนดตารางเวลาที่เป็นรูปธรรมในการนำแนวทาง “สองรัฐ” (ให้มีทั้งรัฐปาเลสไตน์และรัฐอิสราเอล) มาปฏิบัติ

แถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศจีนเมื่อคืนวันอาทิตย์ (14 ม.ค.) ระบุว่า นายหวังให้ความเห็นดังกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการหารือกับนายซามิห์ ชุกรี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ ในกรุงไคโร โดยนายหวังเปิดเผยมุมมองของตนที่มีต่อสงครามอิสราเอล-ฮามาส

นอกจากนี้ นายหวังยังได้หารือกับเลขาธิการสันนิบาตอาหรับ โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นอย่างละเอียดเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาส และบรรลุข้อตกลงหลายประการในการช่วยแก้ไขวิกฤตการณ์ครั้งนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายหวัง ซึ่งเป็นนักการทูตระดับสูงของจีน เดินทางเยือนอียิปต์, ตูนิเซีย, โตโก และโกตดิวัวร์ จนถึงวันพฤหัสบดีนี้ (18 ม.ค.)

แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า หลังการหารือกับคู่เจรจาจากอียิปต์ นายหวังกล่าวว่า ความขัดแย้งในกาซา “ส่งผลให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก นำไปสู่หายนะด้านมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง และเร่งการแพร่กระจายของผลกระทบเชิงลบ”

นายหวังกล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานของฉนวนกาซาถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้ประชาชนหลายล้านคนต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด นายหวังกล่าวเสริมว่า จีนได้ตัดสินใจที่จะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมฉุกเฉินเป็นงวดที่สาม

นายหวังยังกล่าวอีกว่า ประชาคมโลกควรตั้งใจฟังข้อกังวลที่ชอบธรรมของประเทศในภูมิภาคนี้ “และการกำกับดูแลกาซาในอนาคตควรจะเป็นก้าวสำคัญสู่แนวทางสองรัฐ”

ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อคืนวานนี้ว่า ในการหารือแยกต่างหากกับนายอาเหม็ด อบูล เกต เลขาธิการสันนิบาตอาหรับ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ประชาคมโลกควรดำเนินการเพื่อลดความรุนแรงของสถานการณ์และบรรลุข้อตกลงหยุดยิงโดยเร็วที่สุด

“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศที่มีอิทธิพลจำเป็นต้องมีบทบาทที่เป็นกลาง ไม่ลำเอียง และสร้างสรรค์ในเรื่องนี้” ทั้งสองฝ่ายกล่าวในแถลงการณ์ร่วม

ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำว่า แนวทางสองรัฐยังคงเป็นพื้นฐาน “สำหรับข้อตกลงใด ๆ ในอนาคตเกี่ยวกับชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์ รวมถึงเยรูซาเลมตะวันออก”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ม.ค. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top