ผู้นำของกองทัพแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติดาระอั้ง (TNLA) เปิดเผยในวันนี้ (12 ม.ค.) ว่า กลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพ ทางตอนเหนือของเมียนมาตกลงที่จะหยุดยิงกับรัฐบาลทหารของเมียนมา พร้อมเสริมว่า การเจรจาสงบศึกที่เกิดขึ้นโดยมีจีนเป็นตัวกลาง
กองทัพเมียนมา ซึ่งโค่นล้มอำนาจของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในปี 2564 ได้ต่อสู้กับกลุ่มต่อต้านเพื่อจำกัดอำนาจของกลุ่มเหล่านี้ในการภูมิภาค นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนต.ค. 2566 ส่งผลให้เกิดความรุนแรงตามแนวชายแดนทางตอนเหนือซึ่งมีพื้นที่ติดกับจีน
ทั้งนี้ การโจมตีร่วมกันของกลุ่มพันธมิตรเป็นอุปสรรคในสนามรบที่ใหญ่ที่สุดสำหรับกองทัพเมียนมา นับตั้งแต่ก่อรัฐประหาร และปัญหาการสู้รบนี้ได้สร้างความกังวลแก่จีนว่าการค้าชายแดนอาจหยุดชะงักลง รวมถึงกรณีที่ผู้ลี้ภัยหลั่งไหลเข้าประเทศจีน
ผู้นำของ TNLA กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า กลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพตกลงที่จะ “หยุดยิงโดยไม่รุกคืบไปมากกว่านี้” ในการเจรจาที่มีนายเติ้ง ซี จิน ทูตจีนเป็นคนกลาง โดยระบุว่า “ข้อตกลงจากฝ่ายพันธมิตรคือ การงดเว้นการโจมตีค่ายหรือเมืองของศัตรู ส่วนข้อตกลงจากฝ่ายทหารคือ การไม่จู่โจมด้วยการโจมตีทางอากาศ การทิ้งระเบิด หรืออาวุธหนัก”
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเผด็จการของเมียนมาไม่ได้ออกมายืนยันการเจรจาดังกล่าว ขณะที่กลุ่มพันธมิตรอีก 2 กลุ่ม ได้แก่ กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) และกองทัพอาระกัน (AA) ก็ไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการเจรจาดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ม.ค. 67)
Tags: กองทัพเมียนมา, จีน, รัฐบาลทหาร, เมียนมา