นายกฯ ประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าฯ จ.เชียงใหม่ เน้นย้ำทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือ ให้ยึดหลักตาม 6 แนวทางการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหา
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า และการเชื่อมโยงระบบขนส่งและเดินทางในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยระบุว่า มีความห่วงใยสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและไฟป่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนภาคเหนือหลายจังหวัดในขณะนี้ จึงต้องการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา และวิธีการป้องกันร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ได้สั่งการการดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือกัน โดยยึดหลักแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้
1. สถานการณ์ต้องดีขึ้นทุกวัน ด้วยการทำหน้าที่อย่างจริงจัง ขอให้แบ่งหน้าที่และพื้นที่รับผิดชอบ X-Ray พื้นที่ในความรับผิดชอบว่ายังมีปัญหาที่ใด และรีบแก้ไขโดยเร่งด่วน และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบทุกวัน ถ้าไม่ดีกว่าเดิม ต้องแจ้งว่าเพราะอะไร มีอุปสรรคอะไร และอยากคืนอากาศบริสุทธิ์แก่ประชาชนภาคเหนือให้เร็วที่สุด
2. การบริหารจัดการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ต้องมีแนวทางการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว เพื่อความยั่งยืน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน ถูกต้อง แม่นยำ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
3. การดูแลประชาชน โดยเฉพาะปัญหาด้านสุขภาพ ขอให้จังหวัดและทุกส่วนราชการ โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดูแลประชาชนให้ครอบคลุมทุกมิติ เช่น เรื่องสุขภาพอนามัยของเด็กและผู้สูงอายุ และชีวิตความเป็นอยู่ การรณรงค์ใส่หน้ากากกรองฝุ่น การจัด Safety Zone หรือศูนย์พักพิงสำหรับประชาชน
4. การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อให้ประชาชนได้รับอากาศที่ดีในตอนนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลเรื่องการให้ประชาชนมีหน้ากากกรองฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพ และราคาที่เข้าถึงได้
5. ให้ความสำคัญแก่การสร้างจิตสำนึกร่วมกัน ให้ประชาชนรับรู้ข่าวสาร และการยกระดับความตื่นตัวให้ประชาชนรู้ถึงพิษภัยของ PM 2.5 การขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันดูแลพื้นที่ป่า ลดการเผา จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะชุมชนที่ต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา
6. ในระยะยาว ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ภาคเหนือ โดยขอให้ช่วยกันคิดและรีบปฏิบัติให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคมนาคม และการดำรงชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการแก้ไขปัญหาสิทธิในที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย
นายกฯ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่วานนี้ (10 ม.ค. 67) ได้มีโอกาสพูดคุยกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และรู้สึกยินดีหากเปรียบเทียบตัวเลขปีนี้กับปีที่แล้ว พบว่าปัญหาฝุ่นลดลงหลายเท่าตัว มีการแสดงแผนที่ Red Zone อย่างมีนัย
ดังนั้น พิสูจน์ได้ว่าจากการที่ได้ลงพื้นที่และให้ความใส่ใจเรื่องนี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถทำให้ตัวเลขฝุ่น PM 2.5 ลดลงได้อย่างมีนัย ส่งผลให้เศรษฐกิจของภาคเหนือดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว ที่เห็นได้จากการขึ้นดอยอินทนนท์ ที่เมื่อปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวกว่า 13,000 คน ปีนี้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 17,000 คน จากการที่ฝุ่น PM 2.5 ลดน้อยลงไป
“การที่ประชาชนสามารถตรวจสอบค่าฝุ่น PM 2.5 ได้จากแอปพลิเคชัน ถือเป็นเรื่องที่ดี ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันบูรณาการ ซึ่งการประชุมวันนี้จะมีการพูดคุยกันหลายเรื่อง ซึ่งหลายเรื่องเกี่ยวข้องกับเรื่องของฝุ่น PM 2.5 ด้วย ไม่ใช่แค่การเผาป่าอย่างเดียว รวมถึงเรื่องของการเปลี่ยนแปลงระบบการคมนาคม การสร้างถนนเพิ่มขึ้น โดยกระทรวงคมนาคม ได้นำเสนอเรื่องนี้ และจะมีการจัดสรรงบประมาณในการจัดการเรื่องเหล่านี้ต่อไป” นายเศรษฐา ระบุ
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ต้องขอบคุณและชื่นชมทุกคน ทุกหน่วยงาน ที่ประสานงานกันได้อย่างดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจในการบริหารงาน เหมาะแก่การเป็นแม่แบบที่จะไปใช้ในจังหวัดต่างๆ ให้มีการปฏิบัติร่วมกันอย่างดีเยี่ยมในทุกจังหวัด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ม.ค. 67)
Tags: การคมนาคม, ฝุ่น PM 2.5, หมอกควัน, หมอกควันไฟป่า, เชียงใหม่, เศรษฐา ทวีสิน, ไฟป่า