โร โมชัน (Rho Motion) บริษัทวิจัยทางการตลาด เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ทั่วโลกพุ่งขึ้น 31% ในปี 2566 แต่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 60%
นายชาร์ลส์ เลสเตอร์ ผู้จัดการฝ่ายข้อมูลของโร โมชัน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “อัตราการเติบโตกำลังชะลอตัวลง แต่นั่นก็เป็นสิ่งอยู่ในการคาดการณ์สำหรับตลาดที่กำลังเติบโตขึ้นเช่นนี้” โดยยอดขายไม่อาจปรับตัวขึ้นเป็นเท่าตัวได้ทุกปี
นายเลสเตอร์กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเมื่อปีที่แล้วส่วนใหญ่สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตที่ 30% ที่โร โมชัน คาดการณ์ไว้ ส่วนปี 2567 ทางบริษัทคาดว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะเติบโตขึ้นระหว่าง 25-30%
โร โมชัน ระบุว่า ยอดขายในเดือนธ.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบรายเดือนที่ 1.5 ล้านคัน
รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบหรือรถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า (BEV) มีสัดส่วนคิดเป็น 9.5 ล้านคัน จากรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 13.6 ล้านคันที่สามารถจำหน่ายได้ทั่วโลกในปี 2566 โดยรถยนต์ PHEV ครองยอดขายส่วนที่เหลือ
ยอดขายรถยนต์ BEV พุ่งขึ้น 50% ในสหรัฐและแคนาดา และขยายตัวขึ้น 27% ในยุโรป และ 15% ในจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์บางรายมีความวิตกกังวลว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปและที่อื่น ๆ อาจชะลอตัวลง เพราะคนรอซื้อรถไฟฟ้ารุ่นที่ดีกว่า เล็กกว่า และถูกกว่า ที่อาจจะใช้เวลาอีก 2-3 ปี
นอกจากนี้ นายเลสเตอร์กล่าวว่า ยอดขายในยุโรปในปี 2567 อาจได้รับผลกระทบจากการที่เยอรมนีตัดสินใจลดการอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าอย่างกะทันหันด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ม.ค. 67)
Tags: ยอดขายรถยนต์, รถยนต์ EV, รถยนต์ไฟฟ้า