กลุ่มแอร์เอเชีย ยื่น 3 ข้อเสนอรัฐบาลไทยหนุนธุรกิจการบิน ปั้นกรุงเทพเป็น Hub เทียบชั้นดูไบ

นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แคปิตอล เอ (Capital A) ผู้ก่อตั้งกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย กล่าวภายหลังเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.การคลัง วันนี้ว่า ได้มีข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ได้แก่

1.ลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันสำหรับเครื่องบินไอพ่นลง 40% จากปัจจุบันจัดเก็บอัตรา 4.726 บาท/ลิตร ซึ่งอัตราเดียวกับที่ปรับลดภาษีดีเซล เนื่องจากใน 4 ประเทศที่กลุ่มแอร์เอเชียให้บริการ คือ มาเลเซียและอินโดนีเซีย ไม่เก็บ ส่วนฟิลิปปินส์ เก็บ 2.48 บาท/ลิตร เวียดนาม เก็บ 1.4 บาท/ลิตร

2.คงอัตราค่าบริการการเดินอากาศ ซึ่งบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) เตรียมจะปรับขึ้นเร็วๆนี้

3.เจรจาเพิ่มสิทธิการบินอินเดีย

“อยากให้ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายมากกว่า ที่เกี่ยวข้องกับสายการบินและผู้โดยสารโดยตรง”นายโทนี่ กล่าว

ในกลุ่มแอร์เอเชีย ปัจจุบันมีธุรกิจใน 4 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ และล่าสุด แอร์เอเชียกัมพูชา จะเริ่มเปิดดำเนินการ มี.ค. 67 โดยในเดือน ม.ค.67 ถือว่าผลประกอบการของธุรกิจในไทยนำโด่งในแง่ของยอดขาย

นายโทนี่ กล่าวว่า ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีว่ากลุ่มแอร์เอเชียต้องการปั้นให้กรุงเทพฯ เป็น Next Dubai ที่ป้จจุบันเป็นฮับการบินของโลก ที่จะสามารถบินตรงจากกรุงเทพไปเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น ในแอฟริกา ยุโรปตะวันออก และเน้นศักยภาพในเชิงประชากรของอาเซียนที่มี 700 ล้านคน สามารถหมุนเวียนการใช้ Hub การบินในอาเซียนเพื่อไปประเทศทั่วโลก

“ไทยมีโอกาสเป็นดูไบที่จะเป็น Hub ใหม่ที่บินไปแอฟริกา ยุโรป หรือทั่วโลก อยากให้ออกแบบสนามบิน มี facility รองรับสายการบิน Low Cost”นายโทนี่ กล่าว

ทั้งนี้ ล่าสุด กลุ่มแอร์เอเชียได้ควบรวมกิจการสายการบินเอาไว้ด้วยกัน เพราะทำให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากกว่าจาก slot สามารถเชื่อมกันได้มากขึ้น จากการบริหารฝูงบิน และได้สั่งเครื่องบินจำนวน 412 ลำ ที่จะทยอยรับมอบในระยะยาว โดย 75% เป็นเครื่องบินเช่าซื้อ โดยในจำนวนนี้ในธุรกิจของแอร์เอเชียในไทยจะได้รับเครื่องบิน 100-125 ลำ

*ไทยแอร์เอเชีย-ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ควบรวมในอีก 2 ปี

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ดล์ ประธานกรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ๋ สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ กล่าวว่า ในไทยมีแผนควบรวมสายการบินไทยแอร์เอเชียและสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ตามการปรับโครงสร้างของกลุ่มแอร์เอเชียที่ประกาศไปเมื่อ 2 วันก่อน

อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ออกจากแผนฟื้นฟูเสียก่อน โดยปัจจุบันได้ทยอยชำระหนี้หลังจากแฮร์คัตไปแล้ว 70% คาดว่าในปลายปี 68 น่าจะออกจากแผนฟื้นฟูได้ ซึ่งกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มแอร์เอเชีย และนายธรรศพลฐ์

นายธรรศพลฐ์ กล่าวว่า สายการบินไทยแอร์เอเชียตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารปี 67 ไว้ที่ 20-21 ล้านคน ซึ่งยังต่ำกว่าระดับก่อนโควิดในปี 62 ที่ 22 ล้านคน ปัจจุบันมีเครื่องบิน 57 ลำ แต่ใช้ได้จำนวน 51 ลำ และอยู่ระหว่างซ่อม 6 ลำ ในปีนี้จะรับมอบเครื่องบินเพิ่มเข้ามาอีก 3 ลำ

ส่วนสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ มีเครื่องบิน 6 ลำ ปีนี้จะรับมอบ 4 ลำในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งได้เตรียมเปิดจุดบินใหม่ไปยังเมืองอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน และปลายปีนี้คาดว่าจะเปิดจุดบินในยุโรปตะวันออก โดยศึกษาอยู่ใน ปราก , บูดาเปสต์, โรม, มิลาน และ เวียนนา

ภาพรวม 2 สายการบิน ยอดจองตั๋วล่วงหน้าในเดือน ม.ค.-ก.พ.67 อยู่ทึ่ 37%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ม.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top