บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ชุดใหม่ เสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไป (Public Offering) ซึ่งเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และคาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 26 – 30 มกราคม พ.ศ. 2567 โดยในวันเสาร์ที่ 27 และวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2567 จะเปิดให้จองซื้อผ่านธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป
นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) TRUE กล่าวว่า หุ้นกู้ TRUE ชุดใหม่มีอายุระหว่าง 1 ปี 3 เดือน ถึง 10 ปี เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนทุกกลุ่ม นักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะสั้นก็สามารถเลือกลงทุนในรุ่น 1 ปี 3 เดือน ถึง 3 ปี 3 เดือน นักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะกลางก็อาจเลือกลงทุนในรุ่น 5 ปี 3 เดือน หรือนักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะยาวและต้องการดอกเบี้ยเพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็อาจเลือกจะลงทุนในรุ่น 10 ปี เพราะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
อัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ TRUE ชุดใหม่ทั้ง 5 ชุดมีดังนี้
- หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.15% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.70% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 3 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.85% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 5 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.20% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 5 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.60% ต่อปี (ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ได้เมื่อหุ้นกู้ครบปีที่ 5)
“ถือเป็นโอกาสอันดีของผู้ถือหุ้นกู้ TUC ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมกราคมนี้ ที่ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะมีการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในปี 2567 ตามการคาดการณ์ หลังจากที่ธนาคารกลางประเทศหลักๆ เช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอังกฤษ เริ่มส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567 หลังจากเงินเฟ้อเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง ทำให้การลงทุนในหุ้นกู้ซึ่งให้ผลตอบแทนคงที่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ในช่วงที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ยังไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจริง”
นางสาวยุภา กล่าวเพิ่มเติม
โดยบริษัทฯ และหุ้นกู้ TRUE ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “A+” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” (“คงที่”) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2566 ซึ่งแสดงถึงสถานะความเสี่ยงด้านการเงินและด้านธุรกิจที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งมีตำแหน่งทางการตลาด (market position) ที่แข็งแกร่งในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ เสริมทัพด้วยโครงข่ายทั่วประเทศ ชุดคลื่นความถี่ที่ครอบคลุม และชื่อแบรนด์ที่ผู้บริโภคเชื่อถือ
ผู้จัดการการจัดจำหน่ายได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาไมโคร) หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Bualuang mBanking, ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ ทุกสาขา หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป SCB EASY และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน แอป CIMB Thai Digital Banking, ธนาคารยูโอบี ทุกสาขา, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส รวมถึงการขายผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet
วัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ไปใช้ชำระคืนหนี้หุ้นกู้ และ/หรือ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการเติบโตของบริษัท โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด หรือ TUC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 15 และ 24 มกราคม พ.ศ. 2567 ก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจลงทุนต่อเนื่องสามารถนำเงินที่ได้รับคืน มาจองซื้อหุ้นกู้ TRUE ชุดใหม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 67)
Tags: TRUE, ทรู คอร์ปอเรชั่น, ยุภา ลีวงศ์เจริญ, หุ้นกู้, หุ้นไทย