รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (9 ม.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสด แต่รวมเชื้อเพลิง ในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ปรับตัวขึ้น 2.1% ในเดือนธ.ค. 2566 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยชะลอตัวจากระดับ 2.3% ในเดือนพ.ย.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนี Core CPI ของกรุงโตเกียวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ทิศทางเงินเฟ้อทั่วประเทศ และเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะนำมาพิจารณาในการประชุมเรื่องการกำหนดอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 22-23 ม.ค. 2567
ขณะเดียวกัน ดัชนี Core-Core CPI ของกรุงโตเกียว ซึ่งไม่รวมราคาเชื้อเพลิงและราคาอาหารสด ปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ชะลอตัวจากระดับ 3.6% ในเดือนพ.ย. โดย BOJ จับตาดัชนีดังกล่าวอย่างใกล้ชิดในฐานะตัวบ่งชี้แนวโน้มราคาสินค้าในวงกว้าง
ขณะนี้ อัตราเงินเฟ้อในญี่ปุ่นสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของ BOJ มาเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่า BOJ อาจจะเริ่มทยอยลดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ลงในปีนี้
อย่างไรก็ตาม นายคาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่า เป็นสิ่งสำคัญที่จะคงนโยบายการเงินผ่อนคลายเป็นพิเศษไว้จนกว่าอัตราเงินเฟ้อที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนจะถูกแทนที่ด้วยการปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้าที่ขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์และได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นค่าแรง
หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในภาคตะวันตกของญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและความเห็นของนายอูเอดะที่ว่าเขาไม่รีบร้อนที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินผ่อนคลายเป็นพิเศษนั้น ทำให้ตลาดมีความมั่นใจน้อยลงว่า BOJ จะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในเดือนม.ค.นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 67)
Tags: ญี่ปุ่น, เงินเฟ้อ