นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดรีบาวด์ แต่ก็ยังไปไหนได้ไม่ไกล สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวในแดนบวกได้เล็กน้อย โดยในประเทศยังมีแรงกดดันจากความกังวลต่อหุ้นกู้ ที่ส่งผลกระทบมายังธนาคารพาณิชย์ ให้มีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ส่วนเงินดิจิทัลวอลเล็ต มองว่าจะมาไม่ทันในเดือนพ.ค.นี้ ทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆในครึ่งปีแรกนี้อาจจะยังไม่เห็น
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงกว่า 4% หลังจากซาอุดีอาระเบียประกาศลดราคาน้ำมันครั้งใหญ่ และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับเพิ่มการผลิต ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอ และภาวะน้ำมันล้นตลาด คาดเป็นแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานในวันนี้
ให้แนวรับไว้ที่ 1,410 จุด และแนวต้าน 1,420 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (8 ม.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 37,683.01 จุด เพิ่มขึ้น 216.90 จุด หรือ +0.58%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,763.54 จุด เพิ่มขึ้น 66.30 จุด หรือ +1.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,843.77 จุด เพิ่มขึ้น 319.70 จุด หรือ +2.20%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,256.10 จุด เพิ่มขึ้น 31.65 จุด หรือ +0.20% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,887.11 จุด ลดลง 0.43 จุด หรือ -0.01% ขณะที่ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 33,704.83 จุด เพิ่มขึ้น 327.41 จุด หรือ +0.98%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ม.ค.67) ที่ 1,418.45 จุด ลดลง 9.51 จุด (-0.67%) มูลค่าซื้อขาย 42,143.31 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 319.91 ล้านบาท (8 ม.ค.67)
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. (8 ม.ค.67) ลดลง 3.04 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 70.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ม.ค.67) อยู่ที่ 6.54 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 34.97 แข็งค่าจากวานนี้ ตลาดรอลุ้นถ้อยแถลงจนท.เฟดเพื่อประเมินนโยบายการเงิน
– “คลัง” ยืนยันแจกเงินดิจิทัล 1 พ.ค.นี้ หลังกฤษฎีการะบุรัฐบาลมีอำนาจออกเงินกู้ เพื่อเดินโครงการ แต่ให้ทำภายใต้มาตรา 53 และ 57 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง แนะฟังความเห็น ทุกภาคส่วน เร่งรายงาน ครม. 9 ม.ค.นี้ ประชุมบอร์ด เงินดิจิทัลภายใน 1 สัปดาห์ วัดใจ “เศรษฐา” เดินหน้าแจกเงิน 5 แสนล้าน อาจจบที่ศาลรัฐธรรมนูญเหมือนกู้เงิน 2 ล้านล้าน
– คลัง-ก.ล.ต.จับตาใกล้ชิด เล็งออก มาตรการดูแลในเวลาที่เหมาะสม ชี้ปัจจุบันมีเพียง “ไอทีดี” ที่มีปัญหารายเดียว เผย นัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ วันที่ 17 ม.ค.นี้ ขออนุมัติเลื่อนไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 2 ปี พร้อมเพิ่มดอกเบี้ยอีก 0.25-0.50% ย้อนผลดำเนินงานปี 66 ประมูลงานรัฐได้แค่ 1 โครงการ ลงทุนหลายโครงการยังไม่มีผลตอบแทน ทั้งทวาย-ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน
– “เงินบาท” อ่อนค่ากว่า 1.3% นำโด่งในภูมิภาค หลังรัฐบาลกดดัน แบงก์ชาติหนัก เหตุขึ้นดอกเบี้ยสวนทางเงินเฟ้อที่ติดลบ ด้านตลาดเงินตีความ กนง.ส่อลดดอกเบี้ยปีนี้ลง 0.5% ขณะ “นักค้าเงิน” ประเมินมีปัจจัยเอื้อให้ดึงดอกเบี้ยลงมาได้ มองระยะสั้นเงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่อง ด้าน “คลัง” ระบุชัดดอกเบี้ยขึ้นเร็วจนเงินเฟ้อติดลบ
– ได้เวลา กกร. เดินหน้านัด ถกประเด็นร้อนอัตราดอกเบี้ย หวังทางสมาคมธนาคารไทยจะมีการชี้แจงในเรื่องดังกล่าว หลังตกเป็นประเด็นวิจารณ์ธนาคารพาณิชย์มีกำไรสูงกว่า 2.2 แสนล้านบาท ถูกตั้งคำถามอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยสูงเกินไปหรือไม่
– สรท. ประเมินการส่งออกในปี 67 จะขยายตัว 2% จากปี 66 ที่คาดว่า จะติดลบ 1% มีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกไปตลาดหลักและตลาดใหม่ คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปีที่แล้ว เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนการขยายตัว เช่น ภาคการผลิตของจีนค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงท้ายๆ ของปี 66 แม้ว่าจะดีขึ้นช้าๆ แต่ดีกว่าปีที่แล้ว ทำให้การส่งออกไปตลาดหลักน่าจะดีขึ้น ขณะที่การส่งออกไปตลาดใหม่ เช่น อินเดีย แอฟริกาใต้ และตะวันออกกลาง น่าจะเห็นโอกาสอันสดใส
หุ้นเด่นวันนี้
– BA (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 22 บาท โมเมนตัมผลการดำเนินงาน ไตรมาส 4/66 คาดยังแข็งแรงแม้เป็น Low Season จากปริมาณผู้โดยสารที่คาดยังอยู่ในระดับที่สูง ขณะที่ค่าตั๋วโดยสารคาดว่ายังแข็งแกร่งต่อเนื่องจาก งวด 9 เดือนปี 66 ระยะสั้นได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงแรง แนวโน้มปี 2567 คาดผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยยังคาดหวังการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน นอกจากนี้ยังอาจเห็น Upside หากรัฐบาลกลับมาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน โดยปัจจุบันเราคาดกำไรปกติปี 2567 +8% y-y แนวรับ 14.90//14.40 บาท แนวต้าน 15.70-15.80//16.20 บาท
– CPAXT (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 32.50 บาท ได้ Sentiment บวกคณะกรรมการกฤษฎีการะบุมาตรการ Digital Wallet สมารถทำได้เป็นบวกต่อรายได้และกำไรของผู้ประกอบการค้าปลีกในอนาคต
– HANA (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 55.00 บาท World Semiconductor Trade Statistics(WSTS) ปรับคาดการณ์ยอดขายในอุตสาหกรรม semiconductor ปีนี้ขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม memory sector โดยคาดยอดขายฝั่ง U.S. ขยายตัว
22.3%YoY และฝั่งเอเชียขยายตัว 12%YoY สะท้อนภาพการกลับมาสะสมสินค้าคงคลังรอบใหม่ที่ได้แรงหนุนจากกำลังซื้อใน End Market
ขณะที่ธุรกิจ SIC ที่มีแนวโน้มปีนี้จะขาดทุนลดลงในปีนี้ โดยบริษัทเพิ่มการผลิตตั้งแต่ช่วงกลางไตรมาส 4/66 องค์ประกอบข้างต้นจะช่วยหนุนต่อทิศทางผลประกอบการกำไร 2567E ให้กลับมาขยายตัว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 67)
Tags: ตลาดหุ้น, ศราวุธ เตโชชวลิต, หุ้นไทย