นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลัง ได้ทำหนังสือสอบถามความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ต่อการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตตามนโยบายของรัฐบาลนั้น ล่าสุด คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ส่งหนังสือตอบกลับมาแล้ว โดยยืนยันว่าสามารถออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ตได้ โดยเป็นไปตามอำนาจของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะออกกฎหมายกู้เงินดังกล่าวมาใช้ในโครงการ
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตั้งข้อสังเกตในบางประเด็น เช่น การออกกฎหมายกู้เงิน จะต้องเป็นไปตามพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง มาตรา 53 และ มาตรา 57 รวมทั้งจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน ซึ่งประเด็นนี้ได้มีการพูดคุยกันในเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่มีข้อสรุป
รมช.คลัง คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธาน เพื่อพิจารณาข้อหารือในประเด็นกฎหมายดังกล่าว โดยจะมีตัวแทนเลขาธิการกฤษฎีกาที่ร่วมเป็นคณะกรรมการ มาพิจารณาตรวจข้อกฎหมาย สรุปข้อประชุม และความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่ามีข้อสังเกต และแนวทางการดำเนินการอย่างไร
“เมื่อมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายฯ แล้ว ก็จะมีการสรุปความชัดเจนว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรต่อไป ในส่วนของร่าง พ.ร.บ.กู้เงินนั้น กระทรวงการคลัง ได้ยกร่างไปบางส่วนแล้วในเบื้องต้น เรื่องนี้ ดำเนินการไม่ช้า” นายจุลพันธ์ ระบุ
ส่วนประเด็นที่ยังมีความเห็นต่างว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะวิกฤตหรือไม่นั้น รมช.คลัง กล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา เพียงแต่พิจารณาว่าขัดต่อ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังหรือไม่ และข้อสังเกตว่าต้องเป็นโครงการที่ดำเนินการในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะวิกฤตจนไม่สามารถตั้งงบประมาณปกติมาดำเนินการได้ รวมทั้งความคุ้มค่าของโครงการ ต้องมีการประเมินผลก่อนและหลัง และรับฟังความคิดเห็นให้รอบด้าน ที่ต้องดูว่าจะมีกลไกอย่างไร เพื่อให้ได้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน หรือหน่วยงานใดเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่คณะกรรมการชุดใหญ่ต้องพิจารณาต่อ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ม.ค. 67)
Tags: กระทรวงการคลัง, คณะกรรมการกฤษฎีกา, จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, ดิจิทัลวอลเล็ต, พ.ร.บ.กู้เงิน