ก.ล.ต.ถกสมาคม บจ.ร่วมวางแนวทางยกระดับการกำกับดูแลการระดมทุน-ลดอุปสรรค

ก.ล.ต. ประชุมร่วมกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (TLCA) เพื่อหารือแนวนโยบายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการพัฒนาการยกระดับกฎเกณฑ์การอนุญาตออกและเสนอขายหลักทรัพย์และการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน พร้อมทั้งแนวนโยบายอื่นๆ ที่ช่วยลดภาระและอุปสรรคในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการทำหน้าที่ของบริษัทจดทะเบียนได้ พร้อมทั้งพัฒนาตลาดทุนไทยให้มีความน่าเชื่อถือและเชื่อมั่นต่อไป

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ประชุมร่วมกับนายชนินท์ ว่องกุศลกิจ นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยและคณะ เพื่อหารือถึงความร่วมมือในการพัฒนาและยกระดับการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน การป้องกันและป้องปรามพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของบริษัทจดทะเบียน เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่าบริษัทจดทะเบียนจะสามารถระดมทุนจากผู้ลงทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไปพร้อมกับการเติบโตได้อย่างยั่งยืนและการปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีได้ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ยกระดับการทำงานร่วมกันเชิงรุกเพื่อสานต่อความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนพัฒนาตามหลักเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) เป็นต้น ณ อาคารสำนักงาน ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567

นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการทำงานร่วมกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อคิดเห็นระหว่างบริษัทจดทะเบียน พร้อมทั้งเป็นตัวแทนของบริษัทจดทะเบียนในการประสานงานและติดตามการแก้ไข ปรับปรุงกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ถูกต้องครบถ้วนตรงตามที่กฎหมายและกฎเกณฑ์กำหนด โดยที่ผ่านมา ก.ล.ต. และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยได้ทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการทำหน้าที่ของบุคคลที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงส่งเสริมการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป

โอกาสนี้ขอขอบคุณสมาชิกของสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยทุกท่านที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อสานต่อความร่วมมือและยกระดับการทำงานร่วมกันในเชิงรุก เพื่อให้ตลาดทุนพัฒนาอย่างยั่งยืน ตลอดจนสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนไทยและต่างประเทศได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ม.ค. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top