นายกรัฐมนตรี แจงรัฐบาลให้ความสำคัญกับการจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับประเทศต่างๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะกลุ่มสหภาพยุโรป หรืออังกฤษเท่านั้น เพื่อเชิญชวนนักลงทุนให้เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยเพื่อส่งออก ซึ่งที่ผ่านมา การจัดทำ FTA ยังมีความล้าหลังกว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
“เป็นประเด็นที่มีความเสี่ยงสูง หากเราไม่เร่งทำ เร่งเจรจาให้บรรลุผล เขาก็มีสิทธิ์ที่จะย้ายฐานการผลิต ไม่ใช่เรื่องค่าแรง แต่เรามีความคืบหน้าน้อยมากในการเจรจาช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมา” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ชี้แจงการอภิปราย
สำหรับจุดยืนของประเทศไทยในเวทีโลกที่มีความเปราะบางสูง เรามีความเป็นกลาง และมีความภาคภูมิใจในความเป็นเอกราชของประเทศไทย กรณีที่มีการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ไทยอยู่ในฐานะผู้บริสุทธิ์ที่ถูกทำร้าย เราก็อาศัยช่องทางการทูตในการเจรจาที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย และอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัวกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งได้ขอร้องให้ช่วยเรื่องคนไทย 8 คนที่ยังถูกจับไปเป็นตัวประกัน ซึ่งต้องรอให้หยุดยิงก่อน
นายเศรษฐา กล่าวว่า การเดินทางเยือนต่างประเทศของตน เพื่อเชิญชวนการลงทุนจากต่างประทศเข้ามา ยกระดับภาคอุตสาหกรรมให้เป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง เกิดการจ้างงาน ยกระดับรายได้ ซึ่งจะเดินหน้าทำต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยเรามีจุดแข็งเรื่องความเป็นอยู่ที่ดี โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์สุขภาพระดับโลก ขณะที่เชิญชวนให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยนั้น ก็มีเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ด้วย
ส่วนกรณีเมียนมาที่มีชายแดนติดต่อกันกว่า 2,000 กิโลเมตร ถือเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสำคัญ ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการที่สมาชิกอาเซียนรับรอง เพื่อดูแลประชาชนกลุ่มเปราะบางให้มีความเป็นอยู่ที่ดี โดยไทยจะเป็นผู้นำในการเจรจา ซึ่งจะรวมถึงความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา PM2.5 การค้าชายแดน และปัญหายาเสพติด
สำหรับปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา จะเป็นประเด็นหนึ่งในการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีฮุนมาเน็ต ที่จะเดินทางมาเยือนประเทสไทยในวันที่ 7 ก.พ.นี้ เพื่อนำทรัพยากรมาสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ม.ค. 67)
Tags: FTA, การค้าเสรี, ขึ้นค่าแรง, ต่างชาติ, ย้ายถิ่นฐาน, สหภาพยุโรป, อังกฤษ