สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (26 ธ.ค.) ว่า เอธิโอเปียกลายเป็นประเทศที่ผิดนัดชำระหนี้รายที่สามของแอฟริกาภายในสามปี หลังจากผิดนัดชำระดอกเบี้ยมูลค่า 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับพันธบัตรรัฐบาลระหว่างประเทศเพียงฉบับเดียวของตน
เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ เอธิโอเปียประกาศว่าตั้งใจที่จะผิดนัดชำระหนี้อย่างเป็นทางการ หลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรงจากการเผชิญการระบาดของโควิด-19 ตลอดจนสงครามกลางเมืองนาน 2 ปีที่สิ้นสุดลงเมื่อเดือนพ.ย. 2565
เดิมที เอธิโอเปียมีกำหนดการชำระดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 11 ธ.ค. แต่มี “ระยะเวลาผ่อนผัน” (grace period) อีก 14 วัน ส่งผลให้กำหนดชำระวันสุดท้ายจริง ๆ คือวันอังคารที่ 26 ธ.ค.
แหล่งข่าวของรอยเตอร์ระบุว่า ผู้ถือพันธบัตรไม่ได้รับการชำระดอกเบี้ย ณ สิ้นวันศุกร์ที่ 22 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายของธนาคารระหว่างประเทศก่อนที่ระยะเวลาผ่อนผันจะสิ้นสุดลง ด้านรัฐบาลเอธิโอเปียไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
การผิดนัดชำระหนี้ครั้งนี้ส่งผลให้เอธิโอเปียเข้าร่วมกับอีกสองประเทศในแอฟริกา ได้แก่ แซมเบียและกานา ในโครงการปรับโครงสร้างหนี้ “กรอบการทำงานร่วมกัน” อย่างเต็มรูปแบบ โดยเป็นโครงการของกลุ่มประเทศ G20
เอธิโอเปียร้องขอการผ่อนผันหนี้เป็นครั้งแรกภายใต้โครงการดังกล่าวในช่วงต้นปี 2564 ในเบื้องต้นความคืบหน้าเป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากประเทศเผชิญสงครามกลางเมือง แต่ด้วยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่หมดลงและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ส่งผลให้เจ้าหนี้ทั้งหลายของรัฐบาลเอธิโอเปีย รวมถึงจีน ตกลงที่จะระงับการชำระหนี้ชั่วคราวในเดือนพ.ย.
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. รัฐบาลเอธิโอเปียกล่าวว่า การเจรจากับกองทุนบำนาญและเจ้าหนี้ภาคเอกชนรายอื่น ๆ ที่ถือพันธบัตรของรัฐบาลไม่เป็นไปด้วยดี จากนั้นในวันที่ 15 ธ.ค. บริษัทจัดอันดับเครดิต S&P Global ได้ปรับลดเกรดพันธบัตรลงเป็น “ผิดนัดชำระหนี้” (Default) โดยอิงจากสมมติฐานว่าจะไม่ได้รับการชำระดอกเบี้ย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ธ.ค. 66)
Tags: ผิดนัดชำระดอกเบี้ย, พันธบัตรรัฐบาล, เอธิโอเปีย