นายจาง ช่าย ซิง (แจ็คกี้) ประธานบมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) เปิดเผยว่า การดำเนินงานในปีหน้า บริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิดเชิงบวกอย่างระมัดระวัง โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตเป็นเลขสองหลักในแผนงบประมาณสำหรับปี 67 ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตมาจากโอกาสใหม่ ๆ ในเทคโนโลยี AI โซลูชันการประมวลผลประสิทธิภาพสูง โครงสร้างพื้นฐานทางด้านพลังงานที่สอดคล้องกับกระแสโลกาภิวัฒน์ การใช้พลังงานไฟฟ้า การขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า และพลังงานสะอาด ทั้งนี้การลงทุนขยายเพิ่มกำลังการผลิตล่าสุดในประเทศฮังการีและนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ยังมีส่วนช่วยในการคาดการณ์พื้นฐานของบริษัทในเชิงบวกมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้แนวโน้มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกนั้น เดลต้ามองเห็นบทบาทสำคัญในด้านความยั่งยืนและเทคโนโลยีแห่งอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มที่สำคัญในระดับโลก เช่น การใช้พลังงานไฟฟ้า พลังงานทดแทน และการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า โดยจากความสามารถหลักของบริษัทในด้านการแปลงและการจัดการพลังงาน ช่วยส่งเสริมให้บริษัทมีความเป็นผู้นำในระดับโลกในด้านพาวเวอร์ซัพพลายและอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมทั้งยังวางตำแหน่งให้บริษัทอยู่ในเกณฑ์ที่ดีท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในระดับโลกไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าและการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้กลยุทธ์ของเดลต้าในการลงทุนในด้านเทคโนโลยีใหม่และการกระจายธุรกิจ รวมถึงผลิตภัณฑ์หรือโซลูชัน ทำให้มั่นใจได้ว่ามีความพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากทั้งเมกะเทรนด์ระดับโลกและเทรนด์ใหม่ ๆ เช่น AI และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล
“ในทุก ๆ ปี เดลต้าได้เผชิญกับความท้าทายของตลาดเช่นเดียวกับบริษัทยักษ์ใหญ่อื่น ๆ แต่ด้วยความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของเราในการดำเนินงานตามกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงได้รับการสนับสนุนที่ดีจากพนักงานที่ทำงานด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มประสิทธิภาพ เราจึงสามารถเอาชนะทุกอุปสรรคที่เข้ามาได้ในทุกครั้ง ดังนั้นเราจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเดลต้าจะสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นเช่นนี้ในปีต่อ ๆ ไป” นายจาง ช่าย ซิง กล่าว
ส่วนภาพรวมธุรกิจที่ครอบคลุมผลการดำเนินงาน การคาดการณ์การเติบโต และความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน ณ สิ้นปี 66 ในช่วงต้นปี 66 เดลต้าได้ส่งสัญญาณเชิงบวกอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน โดยบริษัทคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระดับปานกลาง โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับดาต้าเซ็นเตอร์
ทั้งนี้การเติบโตโดดเด่นที่สำคัญในปี 66 คือ เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป็นผลมาจากขนาดความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นและเร่งส่งมอบงานที่ยังค้างอยู่ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานทางการเงินสะสมในช่วง 9 เดือนแรกของปี 66 เกินความคาดหมายและเกินการประมาณการของตลาดโดยรวม
สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 66 เดลต้ามีรายได้รวมกว่า 109 พันล้านบาท มีกำไรสุทธิจำนวน 13.7 พันล้านบาท แม้ว่าภาพรวมมหภาคจะอ่อนตัวลง แต่เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตโดยบรรลุผลทางการเงินที่สูงเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้การขยายกำลังการผลิตในประเทศไทย ประเทศอินเดีย และประเทศในยุโรป ควบคู่ไปกับการดำเนินงานด้านระบบการผลิตอัจฉริยะ ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทต่อการเติบโตในเชิงกลยุทธ์ นอกจากนี้ เดลต้ายังได้รุกเข้าสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย และในช่วงปลายปี 66 ได้เกิดสัญญาณของอุปสงค์ที่อ่อนตัวลง โดยเผชิญกับความไม่แน่นอนในระยะสั้น เนื่องจากสภาวะตลาดที่มีความไม่แน่นอนสูง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 66)
Tags: DELTA, หุ้นไทย, เดลต้า อีเลคโทรนิคส์