นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเรียกร้องให้บริษัทเอกชนของญี่ปุ่นปรับเพิ่มค่าจ้างในอัตราที่สูงขึ้นในปีหน้า ในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด
“ผมอยากขอความร่วมมือจากบริษัทเอกชนในการปรับเพิ่มค่าจ้างพนักงานในปีหน้า ให้สูงขึ้นกว่าปีนี้” นายคิชิดะกล่าวในการประชุมที่จัดขึ้นโดยเคดันเรน (Keidanren) สหพันธ์ธุรกิจแห่งญี่ปุ่น ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจที่มีอิทธิพลมากที่สุดของญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี นายคิชิดะไม่ได้ระบุถึงเป้าหมายที่เป็นตัวเลข
นอกจากนี้ นายคิชิดะยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสนับสนุนรายได้หลังหักภาษี ( (Disposable Income) ของประชาชน ผ่านการปรับลดภาษี โดยคาดว่าแผนการลดภาษีจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นก่อนการเจรจาค่าจ้างประจำปี หรือที่เรียกว่า “ชุนโต” (shunto) ระหว่างฝ่ายบริหารและสหภาพแรงงานญี่ปุ่นจะเริ่มขึ้นในช่วงต้นปีหน้า โดยในแง่ของการปรับขึ้นค่าจ้างนั้น ปีงบการเงิน 2566 ถือเป็นปีที่ญี่ปุ่นมีการปรับขึ้นค่าจ้างที่ดีที่สุดในรอบสามทศวรรษ โดยบริษัทเอกชนได้ปรับขึ้นค่าจ้างโดยเฉลี่ย 3.99% และบริษัทขนาดเล็กปรับขึ้น 3%
รัฐบาลและธนาคารกลางญี่ปุ่นมองว่า การปรับขึ้นค่าจ้างเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ครัวเรือนต่าง ๆ หลุดพ้นจากวิกฤติค่าครองชีพที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ และทำให้ญี่ปุ่นบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้ออย่างมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ นายมาซาคาสึ โทคุระ ประธานเคดันเรนกล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการเดินหน้าปรับขึ้นค่าจ้างมากกว่าในปีนี้ เพื่อร่วมมือกับรัฐบาลในการเอาชนะภาวะเงินฝืด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 66)
Tags: ค่าจ้าง, ญี่ปุ่น, ฟูมิโอะ คิชิดะ