หุ้นบริษัทเกมทั่วโลกดิ่งหนัก หลังจีนออกมาตรการคุมธุรกิจเกมออนไลน์

หลังจากที่หน่วยงานของรัฐบาลจีนเปิดเผยร่างมาตรการใหม่เพื่อควบคุมการใช้จ่ายเงินในการซื้อเกมออนไลน์และเนื้อหาในเกมออนไลน์ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณควบคุมอุตสาหกรรมเกมนั้น ราคาหุ้นของบริษัทผลิตและจำหน่ายเกมทั่วโลกต่างก็ร่วงยกแผง

ราคาหุ้นเทนเซ็นต์ (Tencent) ร่วงลง 12% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทเทนเซ็นต์หายไปประมาณ 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนในตลาดหุ้นสหรัฐนั้น ดัชนี Nasdaq Golden Dragon China Index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนใน Nasdaq ร่วงลง 2.4% เมื่อวันศุกร์ นำโดยหุ้นเน็ตอีส (NetEase) ดิ่งลงหนักสุด

หุ้นโพรซัส เอ็นวี (Prosus NV) ร่วงลงกว่า 20% ในตลาดหุ้นอัมสเตอร์ดัม ขณะที่หุ้นอูบิซอฟท์ เอนเตอร์เทนเมนท์ (Ubisoft Entertainment) ซึ่งเป็นบริษัทที่เทนเซ็นต์เข้าไปลงทุน ร่วงลง 8.3% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฝรั่งเศส และหุ้นยูนิตี้ ซอฟท์แวร์ (Unity Software) ซึ่งเป็นบริษัทเกมคู่แข่งของสหรัฐ ปรับตัวลงเช่นกัน

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลเกมของจีนได้เปิดเผยร่างกฎระเบียบที่รวมถึงการควบคุมแรงจูงใจที่จะทำให้ผู้เล่นเกมกล้าที่จะใช้จ่ายเงินและเวลามากขึ้นในการเล่นเกม โดยกฎระเบียบดังกล่าวนั้นรวมถึงการห้ามบริษัทเกมในการให้รางวัลแก่ผู้เล่นที่ล็อกอินบ่อยครั้ง และแบนเนื้อหาของเกมที่เข้าข่ายละเมิดข้อมูลอันเป็นความลับของรัฐบาล

การใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดดังกล่าวซึ่งคาดว่าจะสร้างความประหลาดใจให้กับบรรดาผู้เล่นเกมและนักลงทุนในตลาดนั้น บ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนพร้อมที่จะออกมาตรการควบคุมอุตสาหกรรมเป็นวงกว้างจนครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมเกมบนมือถือ โดยที่ผ่านมานั้น คณะบริหารของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พยายามจัดการกับพฤติกรรมติดการเล่นเกม โดยอ้างว่าการเล่นเกมออนไลน์ทำให้เยาวชนมีภาวะสายตาสั้นเพิ่มขึ้น

ส่วนในช่วงต้นเดือนส.ค.ปีนี้ CAC ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์ของจีน ประกาศร่างกฎระเบียบห้ามเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้โทรศัพท์มือถือนานกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนัก ซึ่งรวมถึงหุ้นอาลีบาบา เจดีดอทคอม และไป่ตู้

CAC ระบุว่า เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 8 ปีสามารถใช้โทรศัพท์มือถือไม่เกิน 40 นาทีต่อวัน ส่วนเด็กที่มีอายุมากกว่า 8 ปี แต่ไม่ถึง 16 ปี สามารถใช้โทรศัพท์มือถือไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน และเด็กที่มีอายุ 16-17 ปี สามารถใช้โทรศัพท์มือถือไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน

ร่างกฎระเบียบดังกล่าวยังกำหนดให้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนจะต้องไม่ให้บริการใดๆต่อเด็กในช่วงเวลา 22.00 น.จนถึง 06.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ยกเว้นการให้การศึกษา หรือการให้บริการฉุกเฉิน

นอกจากนี้ ร่างกฎระเบียบดังกล่าวกำหนดให้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนจะต้องมีฟังก์ชัน “minor mode” สำหรับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยฟังก์ชั่นดังกล่าวจะต้องปรากฎขึ้นบนหน้าจอทันทีที่มีการเปิดเครื่อง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top