สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยอดการเดินทางไปยังยุโรปในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปีนี้พุ่งสูงเกินระดับปี 2565 แม้จะมีการเตือนเรื่องความปลอดภัยจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วยุโรปก็ตาม โดยผู้บริโภคต่างต้องการแสวงหาความเพลิดเพลินในช่วงวันหยุด ซึ่งส่งผลให้การท่องเที่ยวขยายตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยาวนาน
ตลาดคริสต์มาสและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองต่าง ๆ เช่น มิวนิคและปารีส มีนักท่องเที่ยวคึกคักเป็นอย่างมาก แต่ก็มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้นเช่นกัน โดยข้อมูลจากฟอร์เวิร์ดคีย์สระบุว่า การเดินทางท่องเที่ยวภายในสภาพยุโรป (EU) ในปีนี้ คาดว่าจะสูงกว่าปี 2565 ถึง 22%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า จำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ด้านการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังโควิด-19 โดยบางคนเพิ่งมีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสในปีนี้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่การแพร่ระบาด
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวยังคงมีความกังวลด้านความปลอดภัย โดยในช่วงปลายเดือนพ.ย. เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของยุโรปได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการโจมตีที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ซึ่งภัยคุกคามที่น่ากังวลที่สุดคือกรณีที่มีบุคคลบางกลุ่มออกมาก่อเหตุรุนแรงหรือก่อการร้าย
ในเดือน ต.ค. เกิดเหตุโจมตีรุนแรง 2 ครั้งในกรุงปารีสและเบลเยียม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ด้วยเหตุนี้ ฝรั่งเศส, เบลเยียม, ออสเตรีย, สโลวีเนีย, บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา ประกาศยกระดับการแจ้งเตือนภัยคุกคามจากการก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้น ในขณะที่อิตาลีกลับมาบังคับใช้มาตรการควบคุมชายแดนกับสโลวีเนียอีกครั้ง เนื่องจากความกังวลเรื่องความเสี่ยงที่กลุ่มติดอาวุธจะเดินทางเข้าประเทศ
ฟอร์เวิร์ดคีย์สระบุว่า มีการยกเลิกตั๋วเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส ระหว่างวันที่ 21-31 ธ.ค. โดยเพิ่มขึ้นจาก 2.4% เป็น 3% นับตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.
ทั้งนี้ นายฮวน โกเมซ นักวิเคราะห์จากฟอร์เวิร์ดคีย์ส ระบุว่า “แม้ว่าตัวเลขนี้จะค่อนข้างน้อย แต่ก็อาจเป็นการตอบสนองต่อคำเตือนเรื่องการก่อการร้ายที่แพร่ไปทั่วยุโรป นับตั้งแต่ความขัดแย้งในอิสราเอลเริ่มต้นขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ธ.ค. 66)
Tags: คริสต์มาส, ท่องเที่ยว