TRP กางแผนปี 67 ขยายฐานกลุ่ม CLMV เล็งผนึกพันธมิตรต่อยอดธุรกิจดันรายได้โต 10-15%

นายแพทย์คงศักดิ์ เตชะวิบูลย์ผล ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.เอสเตติก คอนเนค (TRP) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจปี 67 บริษัทวางเป้าหมายรายได้ เติบโต 10-15% จากปี 66 โดยได้รับแรงสนับสนุนจาก 3 ปัจจัย ประกอบด้วย

  1. กลุ่มสินค้าเดิมที่มีอยู่ เป็นการให้บริการศัลยกรรมเฉพาะบนใบหน้า เช่น ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า ด้วยนวัตกรรม Face-Lock เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ บนใบหน้า, ศัลยกรรมตาสองชั้น ด้วยเทคนิค Eye-Lock เทคนิคเฉพาะที่คิดค้นโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ การศัลยกรรมผ่าตัดจมูก และศัลยกรรมส่วนอื่นๆ ของใบหน้า
  2. การบริการที่ไม่เกี่ยวกับการผ่าตัด เช่น การบริการด้านผิวพรรณ ได้แก่ การฉีด Botox, การฉีด Filler การใช้อุปกรณ์ยิงคลื่นความถี่เพื่อกระชับผิว, การให้วิตามินหน้าใส เป็นต้น รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ไม่เกี่ยวกับการผ่าตัด แต่มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ได้แก่ การดูแลเส้นผม หรือ เวชศาสตร์ชะลอวัย โดยการเฟ้นหาพันธมิตรที่มีศักยภาพเข้ามาพัฒนาความร่วมมือแก่กัน
  3. กลุ่มสินค้าใหม่ เป็นนวัตกรรมการแพทย์ที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ในการให้บริการหัตถการเกี่ยวกับผ่าตัด ได้แก่ ADVANCED Face-Lock ที่ช่วยลดความหย่อนคล้อยของใบหน้า พร้อมกับการเติมเต็มร่องลึกต่างๆ บริเวณใบหน้าให้ครบถ้วนสมบูรณ์ และการใช้ FAT STEM CELL โดยใช้สเต็มเซลล์จากไขมันของตัวเองมาทำศัลยกรรมจมูก หรือช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า โดยพบว่า ADVANCED Face-Lock และ FAT STEM CELL สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดและมีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่กลุ่ม CLMV เน้นเจาะตลาดกัมพูชา เมียนมา สปป.ลาว และเวียดนาม ด้วยการสร้างช่องทางการสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น รวมทั้งการมองหา เอเจนซี่ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เพื่อให้การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทในอนาคต

นายแพทย์คงศักดิ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการใช้เงิน IPO จากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) บริษัทได้นำเงินระดมทุนบางส่วนไปชำระคืนเงินกู้ยืมให้กับสถาบันการเงิน ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง สิ้นไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ระดับ 0.42 เท่า รวมทั้งการเร่งเดินหน้าก่อสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบ วงจรแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนดไว้ภายในปลายปี 2567 ถือเป็นการต่อยอดการเติบโตให้กับบริษัทในอนาคต สอดรับกับทิศทางธุรกิจศัลยกรรมความงามของประเทศไทยที่ยังโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจะมองหาผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญและความชำนาญเฉพาะทาง จึงนับเป็นโอกาสของ “ธีรพรคลินิก”

“บริษัทยังคงมุ่งเน้นการรักษาประสิทธิภาพการให้บริการ รักษาคุณภาพมาตรฐานให้อยู่ในระดับ ที่สูง ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของ “ธีรพรคลินิก” พร้อมมุ่งเน้นการพัฒนาความรู้ความสามารถของทีมแพทย์ บุคลากร การบริการ การนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน เพื่อสร้างการบริการที่ดีอย่างต่อเนื่อง และต่อยอดการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต” นายแพทย์คงศักดิ์ กล่าว

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทไตรมาส 4/2566 คาดว่ารายได้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อันเป็นผลจากจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงใกล้เทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ ซึ่งถือเป็นอีกช่วงไฮไลท์ของธุรกิจ รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้ง FAT STEM CELL และ ADVANCED Face-Lock ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ FAT STEM CELL และ ADVANCED Face-Lock ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยสร้างการเติบโตในอนาคต ควบคู่ไปกับนวัตกรรมการผ่าตัดที่เป็นเทคนิคเฉพาะของธีรพร เช่น การทำศัลยกรรมดึงหน้า (FACE-LOCK), การผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น (EYE-LOCK) ที่ยังเติบโตในทิศทางที่ดีต่อเนื่องและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ธ.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top