กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (20 ธ.ค.) ว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 7.769 แสนล้านเยน (5.4 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนพ.ย. หลังยอดส่งออกลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
ทั้งนี้ ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนพ.ย.ลดลง 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 8.82 ล้านล้านเยน ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนพ.ย. ลดลง 11.9% แตะระดับ 9.60 ล้านล้านเยน
ยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นลดลง 62.2% จากระดับปีก่อนหน้า เนื่องจากการนำเข้าพลังงานปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ราคาน้ำมันดิบ ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติเหลวที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรและต้องพึ่งพาการนำเข้าเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานภายในประเทศ
รายงานระบุว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐมูลค่า 8.0429 แสนล้านเยน ขณะที่มียอดขาดดุลการค้ากับจีนแตะ 6.5402 แสนล้านเยน
ยอดส่งออกไปยังจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่สุดของญี่ปุ่นยังคงซบเซา เนื่องจากอุปสงค์เซมิคอนดักเตอร์และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ลดลง
ขณะเดียวกัน ยอดส่งออกอาหารลดลง 60.3% ซึ่งได้รับผลกระทบจากการที่จีนประกาศห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนส.ค. หลังจากผู้ประกอบการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ เริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ธ.ค. 66)
Tags: ญี่ปุ่น, เศรษฐกิจญี่ปุ่น