ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์เป็นสิ่งที่จำเป็นในการจัดการกับปัญหาบริเวณทะเลจีนใต้ของฟิลิปปินส์ เนื่องจากความพยายามทางการทูตกับจีนกำลังเป็นไปในทิศทางที่ย่ำแย่
ทำเนียบประธานาธิบดีเปิดเผยว่า ปธน.มาร์กอสกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ซึ่งมีการแชร์บางส่วนกับสื่อฟิลิปปินส์เมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) ว่า ความพยายามทางการทูตแบบดั้งเดิมถูกจีนมองข้าม
ปธน.มาร์กอสกล่าวขณะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่นว่า “ตอนนี้ เราได้หันไปพึ่งพาวิธีการทางการทูตแบบดั้งเดิม…แต่เราทำแบบนี้มาหลายปีแล้ว ซึ่งมีความคืบหน้าน้อยมาก”
“มันเป็นเวลาที่ประเทศต่าง ๆ รู้สึกว่า พวกเขามีส่วนร่วมกับสถานการณ์นี้ เราจึงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์” ปธน.มาร์กอสกล่าว พร้อมเน้นย้ำว่า ฟิลิปปินส์ต้องการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่รุนแรง
นอกจากนี้ ปธน.มาร์กอสยังระบุเสริมว่า รัฐบาลของเขาจะเดินหน้าเจรจากับพันธมิตรและแสดงจุดยืนร่วมที่แสดงถึงความรับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฟิลิปปินส์และจีนต่างกล่าวโทษกันไปมาจากการชนกันของเรือของพวกเขาใกล้กับบริเวณสันดอนที่เป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ขณะที่ความตึงเครียดเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์เหนือน่านน้ำที่สำคัญนี้เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น
นอกเหนือจากฟิลิปปินส์แล้ว ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ อย่างเวียดนาม มาเลเซีย และบรูไน ต่างก็อ้างอธิปไตยทับซ้อนกับจีนในส่วนต่าง ๆ ของทะเลจีนใต้ซึ่งเป็นช่องทางสำหรับการค้าทางเรือที่มีมูลค่าต่อปีมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 66)
Tags: ทะเลจีนใต้, ฟิลิปปินส์