เทสลา อิงค์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐได้แจ้งต่อพนักงานที่โรงงานผลิตแบตเตอรี่ในเมืองสปาร์กส์ของรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐว่า พนักงานบางรายจะได้ค่าจ้างรายชั่วโมงเพิ่มประมาณ 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนม.ค. 2567
ทั้งนี้ สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานโดยอ้างอิงเอกสารภายในและจากพนักงานว่า เทสลาจะปรับขึ้นค่าจ้างรายชั่วโมงสำหรับพนักงานที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำสุดจาก 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมงเป็น 22 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมงและปรับขึ้นค่าจ้างรายชั่วโมงสำหรับพนักงานเกณฑ์สูงสุดจาก 30.65 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมงเป็น 34.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง ขณะเดียวกันเทสลายังจะปรับค่าจ้างสำหรับพนักงานอีกหลายระดับ โดยพนักงานที่ได้ค่าจ้างระหว่าง 26.20 –30.65 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมงจะได้รับค่าจ้างเพิ่มเป็น 34.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง
รายงานระบุว่า การปรับขึ้นค่าจ้างครั้งนี้จะทำให้พนักงานส่วนใหญ่ได้รับค่าจ้างรายชั่วโมงเพิ่ม 10% ขึ้นไป โดยเพิ่มขึ้นระหว่าง 2–8.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง
การปรับขึ้นค่าจ้างครั้งนี้อาจช่วยให้เทสลาขจัดผลประโยชน์ของพนักงานในการจัดตั้งสหภาพแรงงานและผลักดันให้เกิดข้อตกลงร่วมในรัฐเนวาดา อย่างไรก็ดี เทสลายังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องการปรับขึ้นค่าจ้างดังกล่าว
ทั้งนี้ สหภาพแรงงานยานยนต์สหรัฐ (United Auto Workers – UAW) สามารถทำสัญญาปรับปรุงสวัสดิภาพการทำงานได้มากเป็นประวัติการณ์หลังการเจรจาแบบต่อเนื่องและการผละงานประท้วงในสหรัฐ โดยเป็นการทำสัญญาทั้งกับเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM), ฟอร์ด มอเตอร์ และสเตลแลนทิสซึ่งเป็นบริษัทแม่ของไครส์เลอร์ในปีนี้ และก่อนหน้านี้ นายชอว์น เฟน ประธาน UAW ประกาศว่า จะดำเนินการลักษณะเดียวกันกับกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ในเมืองดีทรอยต์ ทั้งเทสลา โตโยต้า มอเตอร์ และกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์รายอื่น ๆ ที่ดำเนินงานในสหรัฐ แต่ไม่มีสหภาพแรงงาน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 66)
Tags: Tesla, ค่าจ้าง, พนักงาน, เทสลา อิงค์