นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เผยผลการหารือกับ 7 ค่ายรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ในระหว่างการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นวันแรก
- ฮอนด้า
ฮอนด้า มีแผนจะลงทุนในไทยอีก 5 หมื่นล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานจากรถยนต์สันดาปไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยได้ให้ผู้ประกอบการในประเทศสร้างโรงงานที่เป็น Green Energy และการติดตั้งปลั๊กอินไฮบริด เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ได้แถลงไว้
- นิสสิน
นิสสัน เป็นบริษัทที่เข้ามาทำตลาดรถ EV ในประเทศไทยยุคแรก ตั้งแต่ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คือ “นิสสัน ลีฟ” ซึ่งบริษัทยืนยันว่าจะเข้ามาทำตลาดต่อเนื่องในเมืองไทย
- มิตซูบิชิ
มิตซูบิชิ มีความต้องการพัฒนารถกระบะให้เป็นรถ EV ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอให้บริษัทเร่งลงทุนให้เร็วขึ้น เพราะขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างรวดเร็วจากการใช้รถสันดาปไปสู่ EV ซึ่งมิตซูบิชิ จะเริ่มใช้ไทยเป็นฐานในการส่งออกรถกระบะในอีกไม่กี่ปีนี้
- ซูซูกิ
ซูซูกิ แม้เป็นบริษัทเล็ก แต่อยู่ในไทยมานานในการผลิตรถอีโคคาร์ คือ ซูซูกิสวิฟ ซึ่งได้ขอให้รัฐบาลไทยช่วยส่งเสริมการผลิตรถอีโคคาร์อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่นายกรัฐมนตรี แนะนำให้ผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพราะแนวโน้มขายดีในเมืองไทย
- อีซูซุ
บริษัท อีซูซุ พร้อมลงทุนในไทยอีกราว 32,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า หลังจากในช่วงะ 2 ปีที่ผ่านมา ได้ลงทุนไปแล้ว 2 หมื่นกว่าล้านบาท
- มาสด้า
บริษัทมาสด้า ได้ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถเพื่อส่งไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ โดยมั่นใจว่ารถ SUV มีสมรรถนะที่ดี และจะพยายามลงทุนเพิ่มเติมในไทย ซึ่งบริษัทมีการจ้างแรงงานไทยค่อนข้างมาก
- โตโยต้า
โตโยต้า เป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และทำตลาดในไทยมากว่า 60 ปีแล้ว จึงเข้าใจการทำธุรกิจในไทยเป็นอย่างดี ทั้งนี้รถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ เป็นรถที่มียอดจำหน่ายสูง โดยบริษัทมีแผนจะเริ่มผลิตรถกระบะ EV ภายในปี 2025 เพียง 5 พันคัน ซึ่งเป็นจำนวนไม่มาก เนื่องจากโตโยต้ามีความเป็นห่วงเรื่องสถานีชาร์จไฟฟ้า ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันว่ามีการเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาก กระจายไปยังหลายจังหวัด ซึ่งโตโยต้ารับจะไปพิจารณาเร่งการผลิตรถกระบะ EV ให้เร็วขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ได้พูดคุยกับค่ายรถต่างๆ ในวันนี้ คือการเร่งให้แต่ละบริษัทลงทุนผลิตรถอีวีให้เร็วขึ้น เพราะบริษัทเหล่านี้อยู่ในไทยมานาน รวมทั้งพูดคุยกันถึงการใช้พลังงานสะอาด ที่จะเป็นหัวข้อหลักในการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่นสมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ด้วย
ทั้งนี้ หากให้ประเมินโอกาสความสำเร็จจากการหารือ ที่จะได้เห็นในรัฐบาลชุดนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี ก็เชื่อว่าทุกโครงการจะสำเร็จ เพราะบางโครงการก็จะเริ่มเข้ามาในปีหน้า ในขณะที่บางโครงการก็ได้เริ่มการลงทุนไปแล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ก่อนจะพบกับบริษัทรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้มีการหารือกับมิตซุยกรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ใหญ่สุดของญี่ปุ่น โดยพูดคุยถึงการสำรวจและขุดเจาะแหล่งก๊าซธรรมชาติ ที่บริษัทมีความสนใจและมีความชำนาญ รวมถึงความเป็นไปได้ในการนำน้ำมันพืชใช้แล้ว มาผลิตเป็นน้ำมันเครื่องบินด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 66)
Tags: ญี่ปุ่น, รถยนต์, เศรษฐา ทวีสิน