นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวมอบนโยบายเพื่อกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ โดยยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดเรื่องการท่องเที่ยวผ่านนโยบายต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยว และสามารถสร้างงานกระจายรายได้ให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก
พร้อมกล่าวถึงแนวคิดในการส่งเสริมการท่องเที่ยว 4 ด้าน ประกอบด้วย
1.ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยให้เมืองรองในหลายจังหวัด โดยเน้นนำจุดเด่นแต่ละพื้นที่ มาดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างแลนด์มาร์คใหม่ ๆ ที่อาจเป็นสถานที่สวยงาม เฟ้นหาผลิตภัณฑ์ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ และให้ช่วยหา Soft power ที่เป็นจุดเด่นของแต่ละพื้นที่ เพื่อนำไปโปรโมทด้วย
2.ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นไฮซีซั่นตลอดทั้งปี โดยขอให้ทุกคนทำการบ้าน คำนวณค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมในการโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวให้มาเที่ยวไทยทั้งปี ซึ่งหากสามารถทำได้ จะมีส่วนช่วยในการกระจายรายได้ และช่วยเรื่องการจ้างงานในพื้นที่ ตลอดจนการแนะนำให้นักท่องเที่ยวมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น
3.ให้ช่วยพัฒนาการบริการด้านข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น เป็นตัวช่วยวางแผนการเดินทางของนักท่องเที่ยว และมีหลายภาษา มีช่องทางการพูดคุยหลายรูปแบบ ครอบคลุมทุกไทม์โซน ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาท่องเที่ยวได้ทุกเวลา จัดทำเว็ปไซต์ที่เข้าใจง่าย ประชาสัมพันธ์ที่หลากหลาย มีการนำเสนออินโฟกราฟฟิกที่เด่นชัด เข้าใจง่าย และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้
4.โจทย์สำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยว คือ การเพิ่มค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่อทริป ซึ่งอยากให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไทย 7-10 วันเหมือนในต่างประเทศ เพราะการที่เข้ามาอยู่นาน ก็จะมีการใช้จ่ายเงินมากขึ้นตาม
“อยากให้ชัดเจนในหลักการว่า เราเน้นการเพิ่มการใช้จ่าย และเพิ่มระยะเข้าพัก จึงอยากให้ช่วยหา Unseen ของเมืองรอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวพำนักนานขึ้น ซึ่งจำนวนเงินหมุนเวียนในระบบ จะสะท้อนถึงผลสำเร็จจากการท่องเที่ยว และให้มีการทำงานกับภาคเอกชนให้ขึ้น เพื่อดึงศักยภาพของทุกจังหวัด และแม้บางจังหวัดแม้ไม่ได้อยู่บนแผนที่โลก แต่ก็มีจุดแข็งของตัวเอง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ธ.ค. 66)
