นางมิเชล บูลล็อก ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) กล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นที่นครซิดนีย์ในวันนี้ว่า คณะกรรมการ RBA จะดำเนินนโยบายการเงินอย่างรอบคอบระมัดระวัง และจะยังคงจับตาข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด พร้อมกับกล่าวว่า ออสเตรเลียไม่เป็นรองประเทศใดในการควบคุมเงินเฟ้อ
“การที่ RBA จะใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไปเพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมายในเวลาที่เหมาะสมหรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เราจะได้รับในวันข้างหน้าและการประเมินความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ”
นางบูลล็อก กล่าว
นอกจากนี้ ในงานเสวนาดังกล่าว นางบูลล็อกยังกล่าวด้วยว่า RBA กำลังพิจารณาเรื่องการวางกฎระเบียบใหม่เพื่อให้ระบบการชำระเงินมีการเปิดกว้างมากขึ้นในการใช้โมบายวอลเล็ต (mobile wallets) รวมทั้งสร้างความโปร่งใส และเปิดโอกาสให้บรรดาผู้ค้าปลีกสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการบริการ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” (Buy Now Pay Later – BNPL)
ในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ RBA มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.35% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี โดย RBA ต้องการประเมินภาวะเศรษฐกิจ และซื้อเวลาในการตัดสินใจว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหรือไม่ในปีหน้า
อย่างไรก็ดี นักลงทุนในตลาดมองว่า การที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของออสเตรเลียขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3/2566 อาจจะลดโอกาสที่ RBA จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีหน้า โดยตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของออสเตรเลียขยายตัวเพียง 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าอาจขยายตัว 0.3% และชะลอตัวลงจากไตรมาส 2 ที่มีการขยายตัว 0.4%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ธ.ค. 66)
Tags: ธนาคารกลางออสเตรเลีย, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจออสเตรเลีย, แบงก์ชาติออสเตรเลีย