นางเจน เฟรเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐนั้น นับเป็นซีอีโอของธนาคารสหรัฐรายล่าสุดที่ออกมาเตือนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ยากลำบากทางเศรษฐกิจในอนาคต
ทั้งนี้ คณะกรรมการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐเปิดเผยถ้อยแถลงที่นางเฟรเซอร์เตรียมไว้ในวันอังคาร (5 ธ.ค.) ก่อนถึงกำหนดการรับฟังถ้อยแถลงจากกลุ่มผู้บริหารในแวดวงธนาคารสหรัฐประจำปีในวันนี้ (7 ธ.ค.) โดยนางเฟรเซอร์ระบุว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐไม่น่าจะเผชิญภาวะขาลงอย่างรุนแรงในอนาคตอันใกล้นี้ แต่เศรษฐกิจสหรัฐมีสิทธิ์เข้าสู่ภาวะถดถอย
นางเฟรเซอร์ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐอาจเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น “ปัญหาเงินเฟ้อเรื้อรังในภาคบริการ, ระดับหนี้สินที่เพิ่มสูงขึ้น, เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และความขัดแย้งครั้งใหญ่ในยุโรปและตะวันออกกลาง”
ในฝั่งการใช้จ่ายของผู้บริโภคนั้น นางเฟรเซอร์เตือนกลุ่มวุฒิสมาชิกสหรัฐว่า ข้อมูลของซิตี้กรุ๊ปบ่งชี้ว่าประชาชนเริ่มลดการใช้จ่ายลงอีก ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยต่อสาธารณชนเมื่อไม่นานมานี้ ขณะเดียวกันผู้บริโภคที่มีคะแนนเครดิตต่ำสุดนั้นมีระดับหนี้สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2562
ด้านนายไบรอัน มอยนิฮาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแบงก์ ออฟ อเมริกาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวันอังคาร (5 ธ.ค.) ว่า “ผู้บริโภคใช้จ่ายเงินลดลง แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี” แม้นายมอยนิฮานจะไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐในเอกสารที่เตรียมใช้กล่าวในการแถลงต่อหน้าคณะกรรมการวุฒิสภาสหรัฐก็ตาม
ขณะเดียวกันนายมอยนิฮานชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป (ซอฟต์แลนดิ้ง) ซึ่งหมายความว่าสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ โดยไม่ทำให้อัตราว่างงานพุ่งทะยานขึ้นอย่างรุนแรง
ส่วนนายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชสออกมาเรียกร้องในสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ชาวอเมริกันเตรียมตัวรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
“สถานการณ์ต่าง ๆ อันตราย และเงินเฟ้อสูง จงระวัง” นายไดมอนกล่าวที่การประชุมสุดยอดนิวยอร์กไทมส์ ดีลบุ๊ก 2566 ในนิวยอร์ก “อัตราดอกเบี้ยอาจสูงขึ้นอีก และจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ธ.ค. 66)
Tags: Citigroup, ซิตี้กรุ๊ป, ธนาคาร, เจน เฟรเซอร์, เศรษฐกิจถดถอย, เศรษฐกิจสหรัฐ