นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) แถลงผลการปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 ราย พร้อมยึดของกลางเป็นยาบ้า 10 ล้านเม็ด โดยผู้กระทำความผิดใช้รถกระบะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือเข้ากรุงเทพฯ โดยอำพรางด้วยพืชผลทางการเกษตร
นายชาดา กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลในทุกพื้นที่ โดยพบว่าผู้ที่มีอิทธิพลส่วนมากมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงต้องดำเนินการปราบปรามโดยเร่งด่วน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และกลไกในระดับพื้นที่ โดยกระทรวงมหาดไทยได้เปิดปฏิบัติการ (Kick Off) ปราบปรามผู้มีอิทธิพลเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นบูรณาการณ์ทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด “แยกปลาแยกน้ำ” ระหว่างผู้เสพผู้ค้า และดำเนินการ ปราบปรามผู้ค้าผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่อเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ตนในฐานะตัวแทนของรัฐบาล ขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ และจะระดมสรรพกำลังทุ่มเทอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ เพื่อป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นมหันภัยร้ายแรงของประเทศชาติ ให้ประชาชน มีความมั่นคง และปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน และดำเนินชีวิตในสังคม ได้อย่างปกติสุข
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 พ.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันสืบสวนติดตามพฤติกรรมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ พบว่าจะใช้รถกระบะลักษณะตีคอกลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดเชียงใหม่ลงมายังพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยอำพรางด้วยพืชผลทางการเกษตร ต่อมาได้พบความเคลื่อนไหวของเครือข่ายขับรถกระบะคันดังกล่าวเข้าไปรับยาเสพติดบริเวณ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ จากนั้นได้มุ่งหน้าสู่พื้นที่ภาคกลาง โดยมีรถยนต์อีกคันขับนำทางและนำมาจอดทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นมีรถเก๋งขับรถมาจอดที่หน้ารถกระบะแล้วมีคนลงจากรถเก๋งแล้วขึ้นไปขับรถกระบะออกไป โดยมีรถเก๋งขับนำทางไป ต่อมาพบรถกระบะขับมาจอดภายในซอยหมู่บ้านฉัตรนคร แขวง/เขตประเวศ กรุงเทพฯ ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวขอตรวจค้น จากการตรวจค้นรถกระบะลักษณะตีคอกพบใช้กล้วยน้ำว้าจำนวนมากวางปิดทับซุกซ่อนกระสอบบรรจุยาบ้าจำนวนประมาณ 10 ล้านเม็ด จึงจับกุมผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่ขับรถบรรทุกยาเสพติด และรถนำทั้งหมด จำนวน 5 คน พร้อมรถยนต์ 3 คัน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(ผบช.ปส.) เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเครือข่ายมีพฤติกรรมเช่นเดียวกับที่เคยจับกุมได้ช่วงกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมยาบ้าจำนวน 13.4 ล้านเม็ด ที่ด่านตรวจจังหวัดชุมพร ซึ่งจะได้สืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีและยึดทรัพย์ผู้สั่งการทั้งสองคดีนี้ให้ได้โดยเร็ว และจะดำเนินการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดที่พื้นที่ชายแดนอย่างจริงจัง โดยจะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน 15 อำเภอ 3 จังหวัด ได้แก่ 6 อำเภอ ของจังหวัดเชียงราย 5 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ และ 4 อำเภอของ จว.นครพนม โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาภายในประเทศ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการสกัดกั้นตามแนวชายแดน
สำหรับผลการปฏิบัติงานในเดือน พ.ย.66 บช.ปส.ได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ 21 คดี ผู้ต้องหา 42 คน ของกลาง ยาบ้า 36,351,455 เม็ด, ไอซ์ 125.84 กก. เฮโรอีน 11.87 กก., โคเคน 3.229 กก. และตรวจยึดทรัพย์ไว้ตรวจสอบมูลค่าประมาณ 24,680,000 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ธ.ค. 66)
Tags: กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์, คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย, ชาดา ไทยเศรษฐ์, ยาบ้า, ยาเสพติด