นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า อัญมณีและเครื่องประดับของไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและเป็นสินค้าส่งออกหลักที่นำรายได้เข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นสัดส่วนราว 7% ของจีดีพี ก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเกือบ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท กระทรวงพาณิชย์จะจับมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลก โดยเฉพาะจังหวัดจันทบุรี ซึ่งถือได้ว่าเป็น “นครอัญมณี”
โดยในวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) ตนจะเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2023 ณ ศูนย์ส่งเสริมอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-11 ธ.ค.66 เป็นการช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในช่วงปลายปี และผลักดันและสนับสนุนให้จังหวัดจันทบุรีเป็นนครอัญมณีศูนย์กลางการค้าและการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับของโลกตามแนวคิด Chanthaburi City of Gems
รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับส่วนใหญ่เป็น SMEs มีการจ้างงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน สร้างงาน สร้างอาชีพให้กับประชาชนได้เกือบเจ็ดแสนคน ทั้งคนคัดพลอย ช่างเจียระไนอัญมณี ช่างฝีมือผลิตเครื่องประดับ ยังไม่รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง อาทิ บรรจุภัณฑ์ ประกันภัย โลจิสติกส์ และการท่องเที่ยว เป็นต้น
“การจัดงานครั้งนี้นอกจากเป็นเวทีการค้าที่สำคัญ ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ ที่กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการตามนโยบายในการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” นายนภินทร กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ธ.ค. 66)
Tags: กระทรวงพาณิชย์, จันทบุรี, นภินทร ศรีสรรพางค์, อัญมณี, อัญมณีและเครื่องประดับ