ผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยในวันนี้ (30 พ.ย.) ว่า นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกต่อสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่เอเชียส่วนใหญ่ เนื่องจากความเป็นไปได้ในการยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงและทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในเอเชียแทน
ผลสำรวจระบุว่า มุมมองเป็นบวกต่อสกุลเงินวอนของเกาหลีใต้, สกุลเงินดอลลาร์ไต้หวัน และสกุลเงินเปโซของฟิลิปปินส์แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. ขณะที่สถานะซื้อของสกุลเงินดอลลาร์ของสิงคโปร์และสกุลเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน
นักลงทุนคาดการณ์ว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงเป็นระยะเวลานาน เมือพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่บ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีกทั้ง ตลาดยังคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในกลางปี 2567
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลดลง 0.6% ในเดือนพ.ย. ส่งผลให้สกุลเงินในตลาดเกิดใหม่เอเชียฟื้นตัวขึ้นบางส่วน
อย่างไรก็ตาม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนของธนาคารกรุงไทยกล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่งเกินคาด
ทั้งนี้ นายพูนกล่าวเสริมว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอาจกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยในไตรมาส 3 และ 4 ของปี 2567 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดเริ่มประเมินราคาจากความเสี่ยงทางการเมืองที่เกิดจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสหรัฐ แม้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอาจอ่อนค่ายืดเยื้อไปจนถึงไตรมาส 3/2567
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ย. 66)
Tags: FX, นักลงทุน, สกุลเงิน, อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ