แอลเอสอีจี (LSEG) ประมาณการว่า บริษัทจีนจะมีกำไรเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 7 ปีในปี 2567 เนื่องจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นอุปสงค์ผู้บริโภคและตลาดที่อยู่อาศัยที่ซบเซา
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ได้วิเคราะห์บริษัทจีน 1,721 แห่งซึ่งมีมูลค่าตลาดอย่างน้อย 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐพบว่า กำไรของบริษัทเหล่านี้อาจปรับตัวขึ้น 16% ในปีหน้า ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2560 โดยในเวลานั้นกำไรพุ่งขึ้น 20.9%
ข้อมูลระบุว่า บริษัทจีนจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 14.5% ในปี 2566
“เศรษฐกิจจีนหลังยุคโควิด-19 ฟื้นตัวแบบเปราะบางก็จริง แต่ปัญหาส่วนใหญ่เป็นไปตามวัฏจักร” หลิว หมินเยว่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนหุ้นเอเชียและจีนแผ่นดินใหญ่และจีนโพ้นทะเล (Greater China) ของบริษัทบีเอ็นพี พาริบาส์ แอสเซต แมเนจเมนต์กล่าว
รายงานระบุว่า เพื่อต่อสู้กับภาวะตกต่ำในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 4 ของ GDP จีน รัฐบาลจีนได้กระตุ้นการใช้จ่าย การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลท้องถิ่นและโครงการที่อยู่อาศัยอื่น ๆ
“มาตรการเหล่านี้สามารถกระตุ้นการเติบโตของกำไรและช่วยให้ราคาสินทรัพย์ฟื้นตัวในปี 2567” หลิวกล่าว
เมื่อพิจารณาเป็นรายภาคส่วน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ภาคสินค้าอุปโภคบริโภคและซอฟต์แวร์จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 40% และ 30% ตามลำดับ
ภาคสินค้าฟุ่มเฟือยและอุตสาหกรรมมีแนวโน้มจะมีกำไรเติบโตขึ้นประมาณ 20% ส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์อาจเติบโต 18% ขณะที่ภาคพลังงานและธนาคารจะเติบโตน้อยสุดที่ 4.3% และ 8.2% ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 66)
Tags: LSEG, จีน, แอลเอสอีจี