ราคาแร่เหล็กร่วงลง 1.8% ในการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ช่วงเช้านี้ หลังจากคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เตือนว่าจะเพิ่มมาตรการกำกับดูแลตลาดเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาแร่เหล็ก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า NDRC ได้จัดประชุมร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการท่าเรือรายใหญ่ของจีนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 พ.ย.) เพื่อหารือเกี่ยวกับสินค้าคงคลังและการจัดเก็บแร่เหล็ก รวมถึงมาตรการป้องกันการกักตุนสินค้า
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแลของจีนออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่าจะใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาแร่เหล็กสูงเกินจริง โดยทางหน่วยงานได้เรียกตัวบริษัทซื้อขายล่วงหน้าบางแห่งให้มาแสดงจุดยืนของตนในการต่อต้านการเก็งกำไรในตลาด
นับตั้งแต่กลางเดือนส.ค. ราคาแร่เหล็กเพิ่มขึ้นประมาณ 30% โดยได้แรงหนุนจากมุมมองในแง่ดีเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในภาคอสังหาริมทรัพย์ แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานด้านอุปสงค์จะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก็ตาม
ผู้สังเกตการณ์ในตลาดคาดหวังว่า การที่รัฐบาลจีนประกาศมาตรการออกพันธบัตรมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน (1.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเดือนที่แล้ว จะเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อบ้านราคาถูก และช่วยกระตุ้นตลาดเหล็ก
นายเจียง เหมิงเทียน นักวิเคราะห์จากฮอไรซอน อินไซท์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยอิสระในจีนกล่าวว่า เนื่องจากมูลค่าเหล็กและวัตถุดิบประเภทต่าง ๆ มีการเคลื่อนไหวในกรอบที่กว้าง ดังนั้นการผลักดันราคาให้ปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาสที่ 4 จึงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนนโยบายที่จะสร้างผลกระทบมากขึ้น
ณ เวลา 10.06 น. ราคาแร่เหล็กที่ตลาดสิงคโปร์ ลดลง 1.4% สู่ระดับ 131.95 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกันยาวนานถึง 5 สัปดาห์ ขณะที่ราคาแร่เหล็กที่ตลาดล่วงหน้าต้าเหลียน ลดลง 1.4% และสัญญาเหล็กที่ตลาดเซี่ยงไฮ้ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ย. 66)
Tags: จีน, เหล็ก, แร่เหล็ก