PrimeStreet โชว์พอร์ตกอง Global Venture Capital โต 3 เท่าใน 18 เดือน เล็งร่วมทุน 4-5 บ.ปี 67

นายพรสิทธิ์ ภูวนากิจจากร ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วน PrimeStreet Capital ผู้บริหารกองทุน Global Venture Capital สัญชาติไทย เปิดเผยว่า ภาพรวม 18 เดือนแรก มูลค่าพอร์ต Global Venture Capital ภายใต้การบริหารจัดการของ PrimeStreet Capital ปรับเพิ่มขึ้น 3 เท่า หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนแก่นักลงทุน (IRR) อยู่ที่ราว 130% ตามการเติบโตของกิจการบริษัทร่วมลงทุน จากที่ได้เข้าไปร่วมลงทุนโดยตรงกับธุรกิจด้านเทคโนโลยีทั่วโลกจำนวน 4 บริษัท ประกอบด้วย

“ZAPP” ผู้คิดค้นออกแบบและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง สตาร์ทอัพสัญชาติอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทมหาชนซื้อขายในตลาดหุ้น Nasdaq,

“FWX” ผู้พัฒนา Platform เทคโนโลยีบล็อกเชนที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกรรมทางการเงินในยุคดิจิทัลก้าวหน้าไปอีกขั้น,

“Clip” ยูนิคอร์นด้าน FinTech ผู้พัฒนาระบบการชำระเงิน (Payment Process) ในเม็กซิโกที่มีความปลอดภัยและศักยภาพสูงสุด จนมีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่าบริการของธนาคารพาณิชย์รายใหญ่สุดของประเทศ

และ “NEUVIVO” บริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotech Company) ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนยื่นขอรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ FDA (Food and Drug Administration) เพื่อนำยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาทที่ได้พัฒนาออกสู่ตลาด

โดยขณะนี้กองทุน Global Venture Capital ภายใต้การบริหารจัดการของ PrimeStreet Capital ยังคงเปิดระดมเงินทุน เพื่อต่อยอดขยายการลงทุนมุ่งเน้น 4 ธีมเมกะเทรนด์ ประกอบด้วย 1. Healthcare and Wellness, 2. Society and Lifestyle, 3. Environment and Resource และ 4. Impact Technology & Web 3.0 ซึ่งที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุน ทั้งนักลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth Investor) และนักลงทุนสถาบัน (Institutional Investor) ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีนักลงทุนรายใหญ่จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ผ่านกระบวนการการอนุมัติและเข้ามาเป็นผู้ลงทุนในกองทุน Global Venture Capital เพิ่มเติมจากกลุ่มผู้ลงทุนเดิม

นายพรสิทธิ์ กล่าวว่า PrimeStreet Capital ยังคงเดินหน้าคัดกรองบริษัทที่มีศักยภาพและโอกาสการเติบโตสูง เพื่อเข้าร่วมลงทุน เชื่อว่าจะได้ลงทุนเพิ่มเติมอีก 4-5 บริษัท ภายในปี 67

นอกจากนี้อีกเป้าหมายสำคัญในการลงทุนของ PrimeStreet Capital คือต้องการนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและโอกาสทางธุรกิจจากทั่วโลก ที่มีความเป็นไปได้ในการเกื้อหนุน สนับสนุน และต่อยอด ให้กับเศรษฐกิจในประเทศไทย กลับมาเชื่องโยงให้กับผู้ประกอบการในประเทศ ล่าสุดจึงเตรียมเปิดตัวกองทุนใหม่ “Local Private Equity Fund” เพื่อร่วมผลักดันผู้ประกอบการภายในประเทศให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด เปิดโอกาสขยายปีกการเติบโตสู่ต่างประเทศ ผ่านเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ PrimeStreet Capital

นอกจากนี้ทาง PrimeStreet Capital จะเปลี่ยนชื่อกองทุน Global Venture Capital จาก RP Venture Alliance Fund 1 (RPVAF-1) เป็น PrimeStreet Impact Fund 1 (PSI-1) เพื่อตอกย้ำจุดยืนด้านการลงทุนที่ต้องการสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืน และมีศักยภาพที่จะขยายผลในวงกว้าง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ย. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top