นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM หัวข้อ “FUTURE READY THAILAND เศรษฐกิจไทยในอนาคตแห่งความเปลี่ยนแปลง” กล่าวว่า กว่าทศวรรษที่ประเทศไทยสูญเสียโอกาสและตัวตนในเวทีโลกในการออกไปค้าขายเพื่อให้ต่างชาติรู้จักประเทศไทย ด้วยปัญหาภายในประเทศ วันนี้รัฐบาลนี้อยากเอาคืนศักดิ์ศรีของประเทศไทยกลับสู่เวทีโลกให้คนไทยมีความภาคภูมิใจว่า ไทยสามารถยืนยันบนเวทีโลกและต่อสู้กับประเทศเพื่อนบ้านในการดึงนักลงทุน และในแง่ของการทูตเชิงรุกได้
ขณะนี้ประเทศไทยพร้อมแล้วในการที่จะออกไปลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากมีภาคเอกชนที่แข็งแรง และพร้อมชักชวนให้นักลงทุนต่างชาติมาลงทุนในประเทศ ผ่านนโยบายต่างๆ และเป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้าของรัฐบาลที่จะช่วยยกระดับประชาชน และนำพาประเทศไทยฝ่าวิกฤตนี้ไปได้อย่างสง่างามบนเวทีโลก
แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าเศรษฐกิจเราไม่ดี ส่วนจะวิกฤตหรือไม่วิกฤตยังคงเป็นข้อถูกเถียงกันระหว่างตนเองกับผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่มั่นใจว่าทุกคนเห็นด้วยว่าเศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ดี
ตั้งแต่ รัฐบาลเข้ามาได้ลดราคาน้ำมัน ลดค่าไฟ พักหนี้เกษตรกร ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่เราได้ทำ และดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาจากต่างประเทศวีซ่าฟรีจีน อินเดีย คาซัคสถานและไต้หวัน แต่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะตัวเลขยังไม่ดีจากเศรษฐกิจโลกก็ไม่ดี ซึ่งการยกระดับรายได้ของประชาชนต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้น เราต้องกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ด้วยโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่จะทำอย่างไรให้มีความโปร่งใสมีความชอบธรรมถูกต้องตามหลักนิติรัฐ และมีที่มาที่ไป ซึ่งเป็นที่มาของการออก พ.ร.บ.เงินกู้
“ถ้า ครม.เห็นด้วย คือตัวแทนของ สส.ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน แสดงว่าพี่น้องประชาชนเห็นด้วย ถ้ากฤษฎีกาเห็นชอบก็ถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.ต้องผ่านสภา ก็เป็นหน้าที่ของสภาที่ต้องลงรายละเอียด ให้รัฐบาลตอบรายละเอียดทุกข้อให้ได้ ถ้ารัฐสภาผ่านความเห็นชอบ ก็ถือว่าเป็นนโยบายที่มีความชอบธรรม ผ่านการตรวจสอบของทุกภาคส่วน ผมไม่อยากจะพูดต่อว่าดิจิทัลวอลเล็ตได้ประโยชน์อย่างไรบ้างเพราะพูดไปหลายวิธีแล้ว ขอให้ขั้นตอนดำเนินไปอาจจะช้าบ้าง แต่ถือว่าเป็นขั้นตอนที่มีความชอบธรรมโปร่งใส ตรวจสอบได้ จากทุกภาคส่วน” นายเศรษฐา กล่าว
นอกจากนั้น รัฐบาลยังได้ยกให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ โดยวันที่ 28 พ.ย.และ 12 ธ.ค. รัฐบาลจะแถลงมาตรการแก้ไขหนี้ เชื่อว่าจะทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น
พร้อมกันนั้น รัฐบาลก็ยังพยายามเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร บริหารจัดการเพื่อไม่ให้เกิดทั้งน้ำท่วมน้ำแล้ง หากเราไม่บริหารจัดการให้เพียงพอจะเป็นปัญหาส่งผลกระทบต่อสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ขณะที่ต้องมีการเตรียมน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ต้องการใช้น้ำอย่างมาก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องบริหารจัดการน้ำให้ได้
“เพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าภายใน 4 ปี วันนี้ยืนตรงนี้ไม่อยากให้เป็นวาทะกรรมเฉยๆ ว่าเราอยากจะเพิ่มรายได้เกษตรกร แต่อยากจะมีขั้นตอนในทุกภาคส่วนในหลายพืชผล ที่เราสามารถทำได้จริง หลังจากวาระของรัฐบาลชุดนี้จบลง เริ่มจากน้ำไม่ท่วมไม่แล้ง และเปิดตลาดใหม่ให้มีการค้าขายได้ ผมหวังว่ากลางเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เราจะมีการแถลงใหญ่และมีขั้นตอนที่ชัดเจน” นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวว่า ขณเดียวกันรัฐบาลก็ต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคเกษตรไม่ว่าจะเป็น ถั่วเหลืองจีเอ็มโอ ยางที่มีปัญหาจากสภาพดิน ปัญหาหมูเถื่อน ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมายังไม่ได้ดำเนินการแก้ไขเท่าที่ควร รัฐบาลชุดนี้พยายามที่จะแก้ไขปัญหา และยังมีเรื่องของยางพาราเถื่อนเข้ามาด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ย. 66)
Tags: Digital Wallet, THE STANDARD ECONOMIC FORUM, ดิจิทัลวอลเล็ต, เงินดิจิทัล, เศรษฐกิจไทย, เศรษฐา ทวีสิน