นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีกองทัพเรือไม่ต้องการเปลี่ยนการจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกต เช่นเดียวกับบริษัท CSOC ที่ไม่อยากเปลี่ยนสัญญา เนื่องจากมีการต่อเรือไปครึ่งลำแล้วว่า ต้องขึ้นอยู่กับข้อกฎหมายด้วย ซึ่งการที่กองทัพเรือ ยื่นเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อสอบถามเรื่องเรือดำน้ำใน 3 ประเด็น คือ 1.การปรับแก้เครื่องยนต์เป็นสาระสำคัญหรือไม่ 2.การจะเปลี่ยนเรือดำน้ำมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง และ 3.อนุมัติให้แก้ไขเครื่องยนต์อำนาจอยู่ที่ใครบ้างนั้น เป็นเรื่องที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนต่อไปที่ต้องทำอยู่แล้ว
ส่วนรัฐบาลจีนเห็นด้วยกับการเปลี่ยนจากเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกตหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “เขารับปากว่าจะดูให้ ผมใช้คำนี้ดีกว่า เขาไม่ได้รับปาก แต่เขาจะดูให้ และการที่ตนคุยกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีนนั้น ก็คุยกันในหลายเรื่อง โดยท่านเองก็ยังไม่มีข้อมูลเชิงลึกมาก เดี๋ยวต้องมาฟังข้อมูลกันก่อน”
ส่วนจะต้องมีการหารือกับทางผู้นำจีนเพิ่มเติมหรือไม่ เนื่องจากการหารือครั้งที่ผ่านมายังไม่ชัดเจน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ยังไม่ชัดเจนในเรื่องข้อกฎหมายด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ย. 66)
Tags: กองทัพเรือ, เรือดำน้ำ, เศรษฐา ทวีสิน