นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ อยู่ที่ 35.09 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับ เดียวกับปิดตลาดเย็นวานนี้ ตลาดรอติดตามรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คืนนี้เป็นหลัก เพื่อดูสัญญาณของเฟดในระยะถัด ไป ด้านสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวในกรอบแคบ
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.05 – 35.20 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
– เงินเยน อยู่ที่ระดับ 148.05 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 148.26 เยน/ดอลลาร์
– เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0952 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0934 ดอลลาร์/ยูโร
– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 35.087 บาท/ดอลลาร์
– “สภาพัฒน์” ชี้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว เผยตัวเลขเศรษฐกิจไทยโตต่อเนื่องคาดปี 66 ขยายตัว 2.5% ปี 67 ขยายตัว 3.2% หลังส่งออกเริ่มฟื้น ระบุไม่ประเมินจีดีพีจาก “ดิจิทัลวอลเล็ต” รอกฤษฎีกาให้ความเห็น เตือนรัฐบาลใช้นโยบายการคลังเหมาะสม รองรับ ความเสี่ยงอนาคต “เศรษฐา” ชี้จีดีพีไทยโตต่ำ กว่าเพื่อนบ้าน 2-3 เท่า ต้องกระตุ้น แย้มส่งกฤษฎีกา ตีความเงินดิจิทัลแล้ว
– เอกชนเผยเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 หนุนธุรกิจโต 30-40% ดันนักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เข้าประเทศไทย เปิดสถิติปี 65 สร้างรายได้แล้วกว่า 1.23 ล้านล้านบาท คาดปี 66 มีต่างชาติเดินทางเข้าไทย 23.2 ล้านคน
– สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) อยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อประสานร่วมกับธนาคาร พาณิชย์ และธนาคารของภาครัฐ เร่งแก้ปัญหาหนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่เคยเป็นลูกหนี้ชั้นดีแต่ขาดสภาพคล่องจากผลกระทบโควิด-19 จน มีหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน หรือลูกหนี้ที่ได้รับรหัสสถานะบัญชี 21 ซึ่งเป็นสมาชิกของ ส.อ.ท. อยู่ประมาณ 12,898 บริษัท รวมยอดหนี้ 61,000 ล้านบาท เนื่องจากมีแนวโน้มว่าหลายกิจการกำลังเข้าสู่การเป็นหนี้เสีย หรือเอ็นพีแอล หากปล่อยไว้อาจทำให้ต้องทยอยปิดกิจการ ในสิ้นปีนี้ จะกระทบต่อการจ้างงานและเศรษฐกิจไทยโดยรวม
– ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (20 พ. ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติวงจรปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย
– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (20 พ.ย.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัย กดดันตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day)
– ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.0% ในไตรมาส 4/2566 หลังจากมีการขยายตัว 2.2%, 2.1% และ 4.9% ในไตรมาส 1, 2 และ 3 ตาม ลำดับ
– ตลาดจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
– FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประ ชุมเดือนธ.ค. 2566, ม.ค. 2567 และมี.ค. 2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือน พ.ค. 2567
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ย. 66)
Tags: ค่าเงินบาท, อัตราแลกเปลี่ยน, เงินบาท