นายซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของกูเกิลยืนยันเมื่อวันอังคาร (14 พ.ย.) ว่า กูเกิลจ่ายเงิน 36% ของรายได้จากการค้นหาบนซาฟารี (Safari) ให้กับแอปเปิ้ลภายใต้ข้อตกลงค่าเริ่มต้นของเครื่องมือค้นหา ซึ่งเป็นแกนหลักของข้อเรียกร้องต่อต้านการผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ
นายพิชัยยืนยันข้อมูลดังกล่าว ระหว่างขึ้นให้การในคดีต่อต้านการผูกขาด ที่กรุงวอชิงตันดีซี ซึ่งเอปิค เกมส์ (Epic Games) ผู้สร้างเกมฟอร์ทไนท์ (Fortnite) ยื่นฟ้องต่อกูเกิล และผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งซึ่งเป็นพยานของกูเกิลได้เปิดเผยข้อมูล 36% ดังกล่าวในชั้นศาลโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อวันจันทร์ (13 พ.ย.)
ทนายความของเอปิค เกมส์ ถามนายพิชัยว่าข้อมูลที่พยานของกูเกิลนำเสนอเป็นความจริงหรือไม่ ซึ่งนายพิชัยยืนยันความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าว
จากนั้น ทนายความของเอปิค เกมส์ กล่าวหาว่า กูเกิลจ่ายเงินให้กับซัมซุง ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านฮาร์ดแวร์รายใหญ่ที่สุดของแอนดรอยด์ (Android) น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินที่จ่ายให้กับแอปเปิ้ล ซึ่งนายพิชัยตอบว่าไม่ทราบแน่ชัดแต่ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้
นายพิชัยกล่าวว่า “สิ่งนี้เหมือนกับแอปเปิ้ลกับส้ม” โดยอธิบายเปรียบเทียบว่าข้อตกลงกับซัมซุงกับข้อตกลงกับแอปเปิ้ลมีความแตกต่างกัน และชี้แจงว่าว่าข้อตกลงเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับการชำระเงินให้กับผู้ให้บริการด้วย และเมื่อถูกถามเพิ่มเติม นายพิชัยระบุว่า กูเกิลมีการแข่งขัน “อย่างดุเดือด” กับแอปเปิ้ล
ทั้งนี้ กูเกิลทุ่มเงินเกือบ 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาทราฟฟิก (Traffic Acquisition Costs – TAC) ในปี 2565 ซึ่งรวมถึงการจ่ายเงินให้กับบริษัทต่าง ๆ ของกูเกิล อาทิ แอปเปิ้ล และซัมซุง เพื่อให้เครื่องมือค้นหาปรากฏขึ้นเป็นอันดับแรก ๆ สำหรับผู้ใช้งาน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ย. 66)
Tags: กูเกิล, ซันดาร์ พิชัย