การศึกษาล่าสุดของศูนย์วิจัยพิว (Pew Research Center) พบว่า เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ติ๊กต๊อก (Tiktok) ที่เข้าดูข่าวสารผ่านแอปเป็นประจำเพิ่มขึ้น 43% ในปี 2566 จาก 22% ในปี 2565 และพบว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่ในสหรัฐได้รับข่าวสารจากโซเชียลมีเดีย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บรรดาสำนักข่าวกำลังแข่งขันกับติ๊กต๊อกและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภครวมถึงงบประมาณของผู้โฆษณา โดยหลายแห่งกำลังสำรวจกลยุทธ์เพื่อดึงดูดกลุ่ม Gen Z ซึ่งเป็นผู้ใช้กลุ่มใหญ่ของติ๊กต๊อก
ผลการวิเคราะห์การบริโภคข่าวของชาวอเมริกันโดยศูนย์วิจัยพิว ซึ่งได้มาจากการสำรวจผู้ใหญ่ในสหรัฐจำนวน 8,842 คนในช่วงระหว่างวันที่ 25 ก.ย. ถึง 1 ต.ค. 2566 พบว่า 67% ของผู้ตอบแบบสำรวจใช้เว็บไซต์หรือแอปข่าว
เฟซบุ๊ก (Facebook) ของบริษัทเมตาเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุดด้านข่าวสาร โดย 30% ของชาวอเมริกันกล่าวว่า พวกเขาเข้าดูข่าวผ่านทางเฟซบุ๊กอยู่เป็นประจำ ตามมาด้วยยูทูบ (YouTube) 26%, อินสตาแกรม (Instagram) 16% และติ๊กต๊อก 14%
รายงานระบุว่า ผู้คนยังดูข่าวสารผ่านทางเฟซบุ๊ก แม้ว่าเมตาพยายามลดความชุกของข่าวสารและเนื้อหาเกี่ยวกับพลเมืองบนแพลตฟอร์มในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเผชิญกับแรงกดดันด้านกฎระเบียบในตลาดสำคัญ ๆ ทั่วโลก
ศูนย์วิจัยพิวพบว่า ผู้ที่ดูข่าวเป็นประจำจากเน็กซ์ดอร์ (Nextdoor), เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม และติ๊กต๊อก มีแนวโน้มที่จะเป็นผู้หญิงมากกว่า ขณะที่ผู้ดูข่าวในเรดดิท (Reddit), เอ็กซ์ (X), ลิงก์อิน (LinkedIn) และยูทูบ (YouTube) มีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ชายมากกว่า
ทั้งนี้ ผลสำรวจระบุว่า ภายใต้การบริหารของนายอีลอน มัสก์ ผู้ดูข่าวสารเป็นประจำบนเอ็กซ์หรือทวิตเตอร์นั้นได้ถูกแบ่งแยกทางการเมือง โดย 46% เอนเอียงไปทางพรรครีพับลิกัน และ 49% เอนเอียงไปทางพรรคเดโมแครต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ย. 66)
Tags: TikTok, ข้อมูลข่าวสาร, ชาวมะกัน, ติ๊กต็อก, โซเชียลมีเดีย