เงินบาทเปิด 35.52 แนวโน้มแกว่ง sideway รอปัจจัยใหม่ จับตาทิศทาง flow

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.52 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากปิดวันก่อนที่ระดับ 35.45 บาท/ดอลลาร์

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท อาจแกว่งตัว sideway ใกล้โซนแนวรับหลัก 35.50 บาท/ดอลลาร์ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา โดยในระหว่างวัน ควรระวังความผันผวนจากฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งมีโอกาสหาจังหวะทยอยขายทำกำไรจากการรีบาวด์ แรงของหุ้นไทยได้บ้าง ขณะที่ฟันด์โฟลว์ในฝั่งตลาดบอนด์ อาจยังพอมีโอกาสได้ลุ้นว่า นักลงทุนต่างชาติยังเดินหน้าซื้อบอนด์ไทยต่อได้ นอก จากนี้ ทิศทางราคาทองคำก็เป็นอีกปัจจัยที่อาจกระทบต่อเงินบาทได้เช่นกัน

โดยวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจ อยู่ที่ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐฯ และตลาดรอจับตาถ้อยแถลง ของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก ทั้งธราคารดลางสหรัฐ (FED) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) พร้อมกับรอติดตามประเด็นการ เมืองสหรัฐฯ ว่าสภาคองเกรสจะสามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะ Government Shutdown ได้หรือไม่

นายพูน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.45-35.70 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยน อยู่ที่ระดับ 151.20 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 150.43 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0845 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0844 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.499 บาท/ดอลลาร์

– ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 35.52-35.54 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิด วันก่อนหน้า 36.05 บาทต่อดอลลาร์ ท่ามกลางแรงเทขายเงินดอลลาร์อย่างหนัก หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของสหรัฐ ออกมาต่ำว่า ตัวเลขคาดการณ์ของตลาดมากทำให้ตลาดเทมุมมองไปที่โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมใน หลายๆ รอบการประชุมถัดไป ทั้งนี้เงินเฟ้อซีพีไอสหรัฐในเดือน ต.ค. ขยายตัว 3.2% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 3.3%

– ไทยเนื้อหอม 3 บริษัทยักษ์ สหรัฐฯ ชั้นนำของโลกทั้งAWS-Google-Microsoft จับมือลงทุนในไทย หวังยกระดับภาค อุตสาหกรรมของประเทศ เล็งสรุปแผนการชวนนักลงทุนต่างชาติ ในรอบ 3 เดือน แจงพอใจหรือไม่ ให้ประชาชนตัดสิน

– “เศรษฐา” ลั่นหมื่นดิจิทัลต้องเกิด เหตุเศรษฐกิจวิกฤต ต้องกระตุ้นชี้ ปชช.-พท. กังวล หาก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน บาทสะดุด ยันไม่มีอคติ น้อมรับทุกความเห็นต่าง “จุลพันธ์” แจงไม่มีแผนสำรองหาก พ.ร.บ.กู้เงินไม่ผ่าน ดีแล้วฝ่ายค้าน-องค์กรอิสระ รุม ตรวจสอบ “วันนอร์” ยันสภาฯ พร้อมเปิดวิสามัญ ถก พ.ร.บ.กู้เงิน หากเป็นเรื่องด่วน “พี่ศรี” ร้อง กกต. ฟัน “พท.-เศรษฐา” แจก เงินดิจิทัลไม่ตรงปก สร้างบรรทัดฐานหาเสียงหลอกลวง

– สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวและส่งให้วุฒิสภาพิจารณา ก่อนที่จะส่งต่อให้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ลงนามเป็นกฎหมายภายในวันศุกร์ที่ 17 พ.ย.เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์

– กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 1.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.9% จากระดับ 2.2% ในเดือนก.ย. ข้อมูลดังกล่าวเป็นไปในทิศทางกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.ของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น 3.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.3% จากระดับ 3.7% ในเดือนก.ย. โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ บริโภค

– นักวิเคราะห์จากบริษัท Capital Advisors กล่าวว่า ดัชนี CPI และ PPI ที่ต่ำกว่าคาด รวมทั้งยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลง เป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน เป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวถือ เป็นการยืนยันว่าเฟดใกล้จะบรรลุเป้าหมายการทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง

– นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค. 2567 เร็วกว่าที่คาดไว้ในเดือนมิ.ย. 2567 หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (15 พ.ย.) ตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ปรับตัวลงน้อยกว่าการ คาดการณ์ของนักวิเคราะห์

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (15 พ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบ แทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด

– สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, การ ผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน และการอนุญาตก่อสร้างเดือนต.ค.

– นักลงทุนจับตาการพบปะเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่นครซาน ฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ โดยนักลงทุนคาดหวังว่าการเจรจาของผู้นำทั้งสองฝ่ายจะช่วยคลี่คลายความขัดแย้งทั้งในด้านการ ทหารและการค้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top