GRAMMY ขึ้นเป็น Holding หลังโอนธุรกิจเพลงให้ GMM Music รอขาย IPO ส่งเข้าตลาดหุ้น

บมจ. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) แจ้งความคืบหน้าการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงว่า บริษัทฯ ได้พิจารณารูปแบบการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงเป็นการโอนกิจการ (Business Transfer) ให้แก่ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (GMM Music) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลง

บริษัทได้จดทะเบียนจัดตั้ง GMM Musicเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 และบริษัทฯ ถือหุ้นใน GMM Music ทั้ง 100% ของหุ้นสามัญทั้งหมดของ GMM Music โดยเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 บริษัทฯ ได้โอนกิจการเพลง ซึ่งหมายความรวมถึงการโอน (1) ทรัพย์สิน หนี้สิน และภาระผูกพันที่เกี่ยวข้องในการประกอบกิจการเพลง และบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการประกอบกิจการเพลง และ (2) เงินลงทุนในบริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค พับลิชชิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท จีสองร้อยเอ็ม จำกัด บริษัท จีอาร์โวคอล สตูดิโอ จำกัด และบริษัท วายจีเอ็มเอ็ม จำกัด ให้แก่ GMM Music เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภายหลังจากการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลง รูปแบบการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯจึงเปลี่ยนจากบริษัทที่มีการประกอบธุรกิจทั่วไป (Operating Company) เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งธุรกิจหลักที่บริษัทฯ ดำเนินการผ่านบริษัทย่อยและบริษัทร่วมที่ประกอบธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจเพลง ธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง และธุรกิจสื่อ โดยบริษัทฯ ไม่มีการประกอบธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญเป็นของตนเอง

อย่างไรก็ดี การปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ไม่กระทบต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2566 ประชุมเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 จึงมีมติอนุมัติให้ GMM Music เป็นบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักที่ไม่มีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนของบริษัทฯ โดยภายหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเสนอขายหุ้นสามัญของ GMM Music ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering) และการนำหุ้นสามัญของ GMM Music เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามที่ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 และวันที่ 4 สิงหาคม 2566 แล้ว ให้บริษัท จีเอ็มเอ็มโอ ช้อปปิ้ง จำกัด (O-Shopping) เป็นบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักที่ไม่มีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนของบริษัทฯ แทน GMM Music

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top