สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ไทยกำลังผลักดันโครงการ Landbridge มูลค่า 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการขนส่งสินค้าระหว่างมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิกได้อย่างมากด้วยการเลี่ยงช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางขนส่งทางทะเลที่มีความคับคั่งมากที่สุดของโลก
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทยได้กล่าวกับนักลงทุนในเมืองซานฟรานซิโกเมื่อวันจันทร์ (13 พ.ย.) ว่า โครงการ Landbridge สามารถลดเวลาการเดินทางโดยรวมได้ 4 วัน และลดต้นทุนโดยเฉลี่ยได้ถึง 15% โดยโครงการใหม่นี้จะช่วยรับประกันว่าสินค้าจะสามารถไหลเวียนได้อย่างราบรื่น ในขณะที่ปริมาณการจราจรมีแนวโน้มจะทะลุศักยภาพของช่องแคบมะละกาภายในปี 2573
รัฐบาลไทยระบุว่า โครงการ Landbridge ต้องใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 1 ล้านล้านบาท (2.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยจะมีการสร้างท่าเรือขึ้นทั้งสองฝั่งของคาบสมุทรตอนใต้ของประเทศและเชื่อมโยงกับเครือข่ายถนนทางหลวงและทางราง โดยการเชื่อมโยงระยะทาง 100 กิโลเมตรดังกล่าวจะเข้ามาแทนที่แผนการขุดคอคอดกระที่มีการเสนอมานานหลายทศวรรษ แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ
“โครงการ Landbridge จะเป็นเส้นทางที่สำคัญต่อการส่งเสริมการขนส่งและเป็นทางเลือกที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาการจราจรผ่านช่องแคบมะละกาที่ถูกกว่า เร็วกว่า และปลอดภัยกว่า” นายเศรษฐาระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 66)
Tags: Landbridge, การขนส่งทางทะเล, ช่องแคบมะละกา, มหาสมุทรอินเดีย, มหาสมุทรแปซิฟิก, อินเดีย, เศรษฐา ทวีสิน