สหรัฐวางแผนซื้อน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรลเข้าคลังสำรองหลังเทขายปีที่แล้ว

กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (13 พ.ย.) ว่า สหรัฐมีแผนซื้อน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล เพื่อเติมน้ำมันเข้าคลังสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) หลังจากที่ขายน้ำมันสำรองออกไปปริมาณมากที่สุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่แล้ว

กระทรวงพลังงานระบุว่า แผนการจัดซื้อน้ำมันอยู่ที่ราคาเฉลี่ย 77.57 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยซื้อจาก 2 บริษัทหลังจากที่มีบริษัทยื่นประมูล 18 ราย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในปีที่แล้ว คณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ดำเนินการขายน้ำมันสำรองเชิงยุทธศาสตร์มากเป็นประวัติการณ์ที่ 180 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันที่ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงรับมือกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้น หลังจากที่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครน โดยหากการซื้อในปัจจุบันเสร็จสิ้น จะหมายความว่า สหรัฐซื้อคืนน้ำมันไปแล้วประมาณ 6 ล้านบาร์เรล

การที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากซาอุดีอาระเบียและรัสเซียปรับลดการผลิตลง จึงเป็นเรื่องยากสำหรับคณะทำงานของรัฐบาลสหรัฐในการซื้อน้ำมันคืนเพื่อเก็บเข้าคลังสำรอง โดยเมื่อเดือนที่แล้ว คณะทำงานของรัฐบาลสหรัฐได้ปรับเพิ่มราคาเสนอซื้อน้ำมันเป็น 79 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลหรือต่ำกว่านั้น จากเดิมที่เสนอซื้อในช่วงประมาณ 68-72 ดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงพลังงานคาดว่าจะออกคำขอซื้อน้ำมันสำรองทุก ๆ เดือน และคาดว่าแผนการนี้จะดำเนินต่อไปจนถึงอย่างน้อยเดือนพ.ค. 2567

“ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และกระทรวงพลังงาน ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติมน้ำมันสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) ในราคาที่สมเหตุสมผล เพื่อรับประกันปริมาณน้ำมันที่เพียงพอในการรับมือกับภาวะฉุกเฉิน ขณะเดียวกันก็รับประกันว่าจะทำข้อตกลงที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน”

โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top