จับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีนพรุ่งนี้ คาดค้าปลีกแกร่ง แต่การผลิตอุตสาหกรรมอ่อนแอ

นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีนอย่างใกล้ชิด โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค., ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., อัตราว่างงานเดือนต.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนต.ค.ในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ย.)

นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ของจีนอาจเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนก.ย.ที่ปรับตัวขึ้น 5.5%

การคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ยอดค้าปลีกของจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์ได้ส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคหดตัวลงในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ส่วนในเดือนต.ค.ปีนี้ คาดว่ายอดค้าปลีกจะได้แรงหนุนจากการที่ประชาชนออกไปเดินทางท่องเที่ยวและจับจ่ายในช่วงวันหยุดยาว 8 วันในช่วงโกลเดนวีก

ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนอาจปรับตัวขึ้น 4.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับการขยายตัวทั้งในเดือนก.ย.และเดือนส.ค. ซึ่งสะท้อนถึงความซบเซาในภาคการผลิต หลังจากหน่วยงานของรัฐบาลจีนและผลสำรวจของภาคเอกชนต่างก็ชี้ไปในทางเดียวกันว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนหดตัวลงอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนต.ค. ขณะที่การส่งออกของจีนลดลงมากกว่าคาดในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการสินค้าจีนในตลาดโลกอ่อนแอลง

นักวิเคราะห์คาดว่า การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 10 แรกของจีนอาจเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากอัตราการขยายตัวในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.)

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การลงทุนของจีนในช่วงหลายเดือนข้างหน้าจะได้รับปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลอนุมัติการออกพันธบัตรเพิ่มอีก 1 ล้านล้านหยวน (1.37 แสนล้านดอลลาร์) ในปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนโครงการก่อสร้างเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยพิบัติ

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนที่ระดับ 2.50% ในวันพุธนี้ (15 พ.ย.) และคาดว่า PBOC จะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบมูลค่า 9.50 แสนล้าหยวนผ่านทางโครงการ MLF

ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็นจี กรุ๊ป ซึ่งรวมถึงโรเบิร์ต คาร์เนลล์คาดการณ์ว่า PBOC ยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ เราคาดว่า PBOC จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLF ในระยะนี้ เนื่องจากเงินหยวนยังคงเผชิญกับแรงกดดันในช่วงขาลง ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top