หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ลุ้นทดสอบ 1,400 จุดได้น้ำมันฟื้นหนุน จับตาตั้ง ESG Fund

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสรีบาวด์ทดสอบ 1,400 จุด รับแรงหนุนราคาน้ำมันดีดขึ้นต่อเนื่อง 3 วัน น่าจะส่งผลดีต่อบรรยากาศโดยรวม ติดตามวันนี้กระทรวงการคลังหรือกับ FETCO จัดตั้งกองทุน ECG คล้ายกับ LTF เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจากเม็ดเงินใหม่ไหลเข้าสู่ตลาด ให้กรอบแนวรับ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,400-1,405 จุด หากยืนอยู่แถว 1,400 จุดได้ มองแนวต้านถัดไปที่ 1,420 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสรีบาวด์ทดสอบบริเวณ 1,400 จุด เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง 3 วัน น่าจะเป็นผลดีต่อบรรยากาศโดยรวมของตลาดหุ้นไทยที่มีน้ำหนักหุ้นน้ำมัน-พลังงาน-ปิโตรเคมีค่อนข้างมาก

วันนี้ต้องติดตามกระทรวงการคลังหารือกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนใหม่ ซึ่งเป็นกองทุนที่คล้ายกับกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) แต่เน้นลงทุนหุ้น ESG หรือหุ้นยั่งยืน คำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม-ธรรมาภิบาลเป็นหลัก ซึ่งประเด็นดังกล่าวน่าจะช่วยกระตุ้นราคาหุ้นได้ เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มเม็ดเงินใหม่ ๆ ให้ไหลเข้ามาสู่ตลาดหุ้น

ให้กรอบดัชนีแนวรับอยู่ที่ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,400-1,405 จุด ซึ่งหากยืนอยู่แถว 1,400 จุดได้มองแนวต้านถัดไปที่ 1,420 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (13 พ.ย.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,337.87 จุด เพิ่มขึ้น 54.77 จุด หรือ +0.16%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,411.55 จุด ลดลง 3.69 จุด หรือ -0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,767.74 จุด ลดลง 30.36 จุด หรือ -0.22%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,760.51 จุด เพิ่มขึ้น 175.4 จุด หรือ +0.54% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,495.10 จุด เพิ่มขึ้น 68.89 จุด หรือ +0.40% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,046.82 จุด เพิ่มขึ้น 0.29 จุด หรือ +0.01%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 พ.ย.66) ที่ 1,387.13 จุด ลดลง 2.44 จุด (-0.18%) มูลค่าซื้อขาย 46,157.93 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 123.28 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 พ.ย.66.

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.(13 พ.ย.) เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 78.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 พ.ย.66) อยู่ที่ 5.59 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.99 ทรงตัว คาดแกว่งไซด์เวย์ใกล้ 36.00 รอดูเงินเฟ้อสหรัฐ

– “เศรษฐา” ยกคำพูด “ผู้ว่าธปท.” ยันกู้แจกหมื่น ไม่เกินเพดาน หวังกระตุ้นจีดีพีเพิ่ม-หนี้ลด เชื่อ 320 เสียงรัฐบาลหนุน ชี้ประเทศวิกฤติต้องกระตุ้น “จุลพันธ์” ชี้โครงการจะไม่เริ่ม หากกฎหมาย ไม่แล้วเสร็จ ย้ำเศรษฐกิจไทยเข้าขั้นวิกฤติหนี้จะพุ่งเกิน 70% ต้องกระตุ้น ‘กอบศักดิ์’ ชี้รัฐมาถูกทางแจกเงินดิจิทัล ผ่านพ.ร.บ. เชื่อจีดีพีไทยปี 67 โตเพียง 3-4%

– “กิตติรัตน์” ถกร่วมคลังและตลาดทุน ฟื้นเชื่อมั่นหลังหุ้นร่วงแรงต่อเนื่อง เผยเตรียมดันตั้งกองทุน ESG โมเดลคล้าย LTF ระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์หลักแสนล้านบาท พร้อมยืนยันไม่มี Short Sell ทุบหุ้น เผยรัฐบาลเตรียมอัดฉีดมาตรการเพิ่มความเชื่อมั่น ชี้ระยะสั้นแก้หนี้ครัวเรือน เน้นหนี้ กยศ.

– “เศรษฐา” โรดโชว์ “แลนด์บริดจ์” (ชุมพร-ระนอง) ดึงนักลงทุนสหรัฐฯ เข้ามาลงทุน ลั่นถ้าโครงการเกิด ช่วยสร้างโอกาสสร้างอนาคตประเทศ เกิดจ้างงาน ยกระดับรายได้ เด็กไทยไม่ย้ายประเทศ ขณะที่บีโอไอเผยนัดบริษัทชั้นนำสหรัฐฯ คุยนายกฯ และเอกชนไทย พร้อมดึงอีวี-ดิจิทัล-อิเล็กทรอนิกส์มาลงทุน

– รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำรวจข้อมูลเพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีว่ารัฐบาลน่าจะยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA Exemption หรือวีซ่า-ฟรี) และขยายเวลาพำนักในไทยให้ประเทศใดเพิ่มเติมบ้างเพื่อเร่งสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เพราะปี 67 สั่งการให้ ททท.เพิ่มเป้ารายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 2 ล้านล้านบาท เป็น 2.5 ล้านล้านบาท เมื่อรวมกับคนไทยเที่ยวในประเทศอีก 1 ล้านล้านบาท รายได้รวมปี 67 จะเป็น 3.5 ล้านล้านบาท ส่วนเป้าหมายสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 ล้านล้านบาท ที่นายกฯ มอบหมายมา จะทำให้ได้ภายในปี 68 ซึ่งกลยุทธ์ที่จะทำให้รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 67 แตะ 2.5 ล้านล้านบาท มีทั้งยกเว้นวีซ่าและให้อยู่เที่ยวไทยนานขึ้น\

– ในการประชุม ครม. วันที่ 14 พ.ย.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้ ครม. พิจารณาปรับปรุงมาตรการดูแลควบคุมสินค้าน้ำตาลทราย โดยมีสาระสำคัญได้แก่ การอนุญาตให้ปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานและราคาขายปลีก อีก กก.ละ 2 บาท รวมถึงมีการผ่อนปรนด้านการส่งออก เพื่อแก้ปัญหาน้ำตาลทรายในประเทศตึงตัว และช่วยดูแลเกษตรกรที่มีภาระต้นทุนการปลูกอ้อยที่สูงขึ้น

หุ้นเด่นวันนี้

– CRC (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 48 บาท ได้ Sentiment บวกจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อรอบใหม่ผ่านโครงการ e-Refund ให้สิทธินำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้ามาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อคนมูลค่ารวม 100,000 ล้านบาท เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก อาทิ ห้างสรรพสินค้า ที่มียอดจ่ายต่อ Bill ต่อครั้งสูงๆ

– KAMART (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 12.23 บาท กำไรปกติไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 144 ลบ. (+63.8% YoY และ +11.3% QoQ) สูงกว่าประมาณการของเรา 10% จากรายได้และ GPM ที่ดีกว่าคาด กำไรปกติช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 คิดเป็น 76.7% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 533 ลบ.

– RBF (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.20 บาท กำไรสุทธิ Q3/66 ที่ 209 ล้านบาท +36%QoQ, +90%YoY ดีกว่าตลาดคาด หนุนจากยอดขายทั้งในและต่างประเทศ สินค้ากลุ่ม Food coating (แป้งชุบทอด) และกลุ่ม Flavor & Fragrance โตดีทั้งคู่ส่งผลให้ GPM ดีขึ้นทั้ง QoQ, YoY ส่วนแนวโน้ม Q4/66 โตต่อเนื่องจากการส่งออกตลาดจีนและอินเดีย และอานิสงส์ต้นทุนแป้งสาลีลดลง นอกจากนี้มีแผนขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้นผ่านการการเปิดโรงงานใหม่ในอินโดนีเซียและโรงงานในอินเดียทำให้กำลังผลิตสินค้ากลุ่มแป้งชุบทอดมากขึ้น +70% และต้นทุนการผลิตต่ำกว่าไทย คาดกำไรปี 66-67 ที่ 657 ล้านบาท +36% และ 778 +18% ตามลำดับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 66)

Tags: ,
Back to Top