BAY คาดกรอบบาทสัปดาห์นี้ 35.70-36.40 จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 35.70-36.40 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 35.88 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 35.38-35.94 บาท/ดอลลาร์

ขณะที่ในระหว่างสัปดาห์ เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน โดยเงินดอลลาร์ แข็งค่าเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนเงินเยน แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) สหรัฐฯ ปรับตัวผันผวน หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่า ยังไม่มั่นใจว่าอัตราดอกเบี้ยสูงเพียงพอแล้ว ที่จะประกาศชัยชนะในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ และเฟดจะไม่ลังเลที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีกหากจำเป็น โดยเฟดจะดำเนินการด้วยความระมัดระวัง

ทั้งนี้ ท่าทีดังกล่าว ส่งผลให้สัญญาล่วงหน้าดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ เลื่อนคาดการณ์แนวโน้มการลดดอกเบี้ยครั้งแรกออกไปเป็นเดือนมิ.ย. 67 นอกจากนี้ การประมูลพันธบัตรสหรัฐฯ รุ่น 30 ปี ยังเผชิญกับภาวะอุปสงค์อ่อนแอ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 9,343 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 10,678 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดการเงินโลก จะติดตามข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และยอดค้าปลีกเดือนต.ค. ของสหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางนโยบายเฟดต่อไป อีกทั้งนักลงทุนจะให้ความสนใจกับการพบกันระหว่างผู้นำจีนกับสหรัฐฯ ในการประชุม APEC รวมถึงเส้นตายที่งวดเข้ามาอีกครั้ง สำหรับภาวะ Government Shutdown ในสหรัฐฯ วันที่ 17 พ.ย.

ส่วนปัจจัยในประเทศ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนตุลาคมของไทย ลดลง 0.31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 25 เดือน และอยู่ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อเป็นเดือนที่ 6 จากการลดลงของสินค้ากลุ่มพลังงาน และสินค้าอุปโภคบริโภค เนื่องจากมาตรการลดค่าครองชีพ

ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงาน สูงขึ้น 0.66% ทั้งนี้ ช่วง 10 เดือนแรกปี 66 เงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น 1.60% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 1.41% โดยกระทรวงพาณิชย์ คงประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้ในกรอบ 1.0-1.7% ข้อมูลดังกล่าว สนับสนุนมุมมองของเราที่ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.50% ตลอดหลายไตรมาสข้างหน้า

อนึ่ง ในเบื้องต้น สินทรัพย์สกุลเงินบาท ตอบรับเชิงลบต่อแผนการกู้ยืมสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการ Digital Wallet ทั้งนี้ รัฐบาลวางกรอบว่าภายในเดือนพ.ย. 66 จะมีการส่งกฤษฎีกาตีความเรื่องพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทต่อไป

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top