นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวลงต่ำกว่า 1,400 จุด สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ จากแรงเทขายทำกำไร หลังวานนี้การแถลงข่าวร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับสภาวะตลาดหุ้นไทย ไม่ได้มีการให้ข้อมูลเชิงบวกอย่างตลาดคาดหวัง โดยเฉพาะมาตราการกำกับ Short sell หรือมาตรการใหม่ๆ ออกมา แต่เป็นเพียงให้ข้อมูลยืนยันว่าการทำ Short sell ไม่ได้เป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้ตลาดปรับตัวลงแรง
อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีนด์) ก็ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งถือเป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้นในวันนี้
ให้แนวรับที่ 1,390-1,400 จุด และแนวต้าน 1,420 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (9 พ.ย.66)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,891.94 จุด ลดลง 220.33 จุด หรือ -0.65%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,347.35 จุด ลดลง 35.43 จุด หรือ -0.81% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,521.45 จุด ลดลง 128.97 จุด หรือ -0.94%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,491.24 จุด ลดลง 155.22 จุด หรือ -0.48% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,350.87 จุด ลดลง 160.42 จุด หรือ -0.92% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,043.56 จุด ลดลง 9.72 จุด หรือ -0.32%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 พ.ย.66) ที่ 1,404.97 จุด ลดลง 6.80 จุด (-0.48%) มูลค่าซื้อขาย 49,743.19 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,189.72 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 พ.ย.66.
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.(9 พ.ย.)เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.54% ปิดที่ 75.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 พ.ย.66) อยู่ที่ 5.36 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.89 อ่อนค่า บอนด์ยีลด์หนุนดอลาร์แข็งค่า-รอความชัดเจนดิจิทัลวอลเล็ต
- “เศรษฐา” นายกฯ และรมว.คลัง แถลงความชัดเจน “ดิจิทัลวอลเล็ต” บ่าย 2 วันนี้ (10 พ.ย.) ขณะที่ ม.หอการค้า ชี้หากประชาชนเห็นความชัดเจนนโยบายเงินดิจิทัลฯ และปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ สามารถบ่งชี้เศรษฐกิจปี 67 ได้ชัดขึ้น ส่วนฟันด์โฟลว์ตปท.แบงก์กรุงไทย (KTB) เผยไหลเข้าบอนด์ตามการย่อตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ และเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น
- ก.ล.ต. ประสาน ตลาดหลักทรัพย์ ยกข้อมูลยืนยันชอร์ตเซล ไม่ถึงขั้นเป็นผู้ร้ายทำตลาดลง ชี้ต่างชาติชอร์ตไม่ส่งผล แต่รับมีบางกลุ่มป่วนชอร์ตเซล พร้อมเดินหน้าฟัน ส่วนโปรแกรมเทรดส่งผลดี ทำให้สภาพคล่องมากขึ้น ด้าน “ดร.ภากร” รับหุ้นไทยลงกว่าเพื่อนบ้าน แต่สัดส่วนต่างชาติยังสูง ส่วน ก.ล.ต. พร้อมขันน็อตหุ้นกู้
- “โตโยต้า” เข้าพบ “เศรษฐา” ย้ำลงทุนอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ในไทย ผลักดันเป็นศูนย์กลางแห่งภูมิภาค พร้อมปรับตัวสู่การผลิตรถอีวี ขอมาตรการสนับสนุนระยะยาว เร่งเฟ้นมาตรการจูงใจค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น
- บอร์ดบีโอไอ” อนุมัติตั้งสำนักต่างประเทศเพิ่ม 3 แห่ง ในประเทศซาอุดีอาระเบีย จีน และสิงคโปร์ เตรียมรับคลื่นลงทุน อุตฯใหม่ใน 2-3 ปีข้างหน้า พร้อมเคาะมาตรการส่งเสริมลงทุน ยกระดับผลิตรถสันดาป-ไฮบริด มอบนายกฯ คุยนักลงทุนญี่ปุ่นปลายปี เว้นภาษี 3 ปี
- กนอ. เปิดเผยว่า ปี 2566 ขายและให้เช่าที่ดินในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นถึง 182% โดยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ยังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง กนอ.ได้กำหนดมาตรการส่งเสริมการให้เช่าที่ดินในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park) ในพื้นที่เขตอุตสาหกรรมทั่วไปกำหนดระยะเวลามาตรการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 เพื่อสร้างแรงจูงใจ ให้นักลงทุนเข้ามาเช่าที่ดินในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตและการลงทุนด้วย
หุ้นเด่นวันนี้
- ADVANC (เมย์แบงก์ ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 251 บาท การพิจารณา กสทช. ต่อการเข้าซื้อกิจการ TTTBB ของ ADVANC หากอนุมัติจะทำให้ ADVANC กลายเป็นผู้ให้บริการ FBB อันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 45% แซง TRUE ที่ส่วนแบ่งตลาดที่ 37% เราเชื่อว่าจะสร้างกำไรเพิ่มขึ้นในระยะยาวและราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก พร้อมคาดกำไรปกติปี 66/67 เติบโตแข็งแกร่งที่ 13%/5% จากการแข่งขันที่ลดลง ราคาปัจจุบันอยู่บน PER 21x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีถือว่าไม่แพงและยังมีปันผล 3.9% ต่อปี
- CBG (ไอร่า) แนะนำ “ซื้อสะสม” ราคาเป้าหมาย 80-85 บาท คาดผลประกอบการไตรมาส 3/66 จะออกมาฟื้ นตัวโดดเด่น QoQ และ YoY สะท้อนถึงการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/66 ตาม Mkt.Share ที่เพิ่มขึ้น และรับรู้รายได้จาก OEM-ขายขวดแก้วและกระป๋องให้โรงเบียร์ ขณะที่ต้นทุนอะลูมิเนียมลดลงช่วยจำกัด Downside ในระยะสั้น-กลางของ CBG
- JPARK (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 3/66 เท่ากับ 22 ล้านบาท +28% q-q, +40% y-y ใกล้เคียงคาด เติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 1/66 จากรายได้รวมโต 20% ทั้ง q-q และ y-y (รับรู้รายได้บริการติดตั้งระบบจัดการพื้นที่จอดรถ 3 โครงการและเริ่มเปิดพื้นที่จอดรถที่ รพ.ลาดกระบัง) และอัตรากำไรขั้นต้นมีสเถียรภาพที่ 22.6% ขณะที่กำไร 9 เดือน +21% y-y คิดเป็น 78% ของคาดการณ์ทั้งปี 64 ล้านบาท ประมาณการของเรามี upside และคาดปี 67 โตก้าวกระโดดเป็น 102 ล้านบาท จากการเปิดบริการที่จอดรถตลาดบางกอกน้อยไตรมาส 1/67 และรพ.พระนั่งเกล้าไตรมาส 3/67 ให้แนวรับ 5.45 บาท แนวต้าน 4.82-5.35 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ย. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย