ในขณะที่โลกคริปโทฯ มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ผู้ควบคุมทางด้านการเงินระดับโลกอย่าง SEC สหรัฐ จำต้องมีการปรับตัวและพัฒนาตาม แน่นอนว่าการเปิดรับบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและความเข้าใจเรื่องคริปโทฯ ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
หากเมื่อ SEC สหรัฐต้องการเจ้าหน้าที่ที่มาทำงานในด้านคริปโทฯ แต่ไม่ถือครองคริปโทฯ กลายเป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขที่หลายคนไม่สามารถเข้าสมัครงานกับ SEC สหรัฐได้ อีกทั้งความขาดแคลนของทรัพยากรบุคคล และทางภาคเอกชนก็พร้อมจะดึงตัวผู้มีความสามารถเข้าไปทำงานด้วยตลอดเวลา SEC สหรัฐจะทำเช่นไร??
ตลาดคริปโทฯ มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วตลอดเวลา แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากที่หน่วยงานรัฐบาลจะปรับตัวตามทัน ซึ่งโดยปกติแล้วหน่วยงานรัฐก็จำเป็นต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้จริง ๆ มาเป็นที่ปรึกษา ให้ข้อมูล และทำงานร่วมกัน
แต่คราวนี้ผู้กำกับดูแลตลาดทุนหลักของโลกอย่าง SEC สหรัฐ กลับต้องเผชิญกับความท้าทายในการรับสมัครผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโทฯ เข้าทำงาน ทั้งที่ตลาดคริปโทฯ มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่กลับติดขัดด้วยนโยบายของตัวเองที่ไม่เอื้ออำนวย นั่นก็คือห้ามไม่ให้ผู้สมัครมาเป็นเจ้าหน้าที่ ถือครองคริปโทฯ
เรียกได้ว่าหน้าที่การงานที่ SEC สหรัฐกำลังเปิดรับสมัครนั้นต้องการผู้ที่เข้าใจตลาดนี้อย่างแท้จริง แต่กลับห้ามไม่ให้ถือครองคริปโทฯ กลายเป็นว่าตัดโอกาสหลายคนที่มีความสามารถแต่มีคริปโทฯ ในครอบครอง
ยิ่งไปกว่านั้นบุคคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ก็ยังมีจำกัด ทำให้มักได้รับข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจกว่าหลายเท่าตัวจากภาคเอกชนอีกด้วย งานนี้ต้องคอยดูกันเลยว่าทาง SEC สหรัฐ จะสามารถหาผู้เชี่ยวชาญมาร่วมทีมได้หรือไม่ และถ้าไม่ได้ ระหว่างหลักจริยธรรมที่ตั้งไว้กับการปรับตัวเพื่อรองรับอนาคตที่ไม่แน่นอนของตลาดคริปโทฯ อันไหนจะสำคัญกว่ากัน
ในโลกที่ความไม่แน่นอนเป็นเรื่องปกติ ธุรกิจต่างก็ต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง OpenSea ก็เช่นกัน
หลังจากที่เป็นเจ้าตลาด NFT มานาน แต่ช่วงที่ผ่านมาตลาดคริปโทฯ ซบเซา Opensea ก็เริ่มเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับ Blur ไปเรื่อย ๆ จนตอนนี้ไม่ใช่ผู้นำอีกต่อไปแล้ว เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ต้องทำอะไรสักอย่าง
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา ทาง OpenSea ได้ประกาศปลดพนักงานออกกว่า 50% เพื่อที่จะเดินหน้าสู่ OpenSea 2.0 ที่จะมาพร้อมกับการขยายตัวแบบก้าวกระโดด ความปลอดภัยระดับพรีเมียม และการใช้งานที่ง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ทุกคน
จริงอยู่ว่าการปลดพนักงานอาจเหมือนเพราะบริษัทขาดกระแสเงินสด แต่การปลดพนักงานก็อาจจะทำเพื่อเดินหน้าด้วยการลดค่าใช้จ่ายได้เช่นกัน เรียกว่าไม่รู้จะเป็นข่าวดีในข่าวร้าย หรือข่าวร้ายในข่าวดีกันแน่
แต่ทีนี้พอเรามาดู Blur Token ซึ่งกำลังเป็นเจ้าตลาด NFT ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเกินกว่าครึ่งในตอนนี้ ก็พบว่าหลังจากข่าว OpenSea นี้ออกมา ราคา Blur Token ก็ปรับตัวสูงขึ้นกว่าอีก 30% เลยทีเดียว งานนี้คงต้องคอยดูว่า OpenSea 2.0 จะมาแก้เกมทวงส่วนแบ่งการตลาดคืนได้หรือไม่
งานมหกรรมบล็อกเชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023 รวมพลคนบล็อกเชน งานที่จัดต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่ 6
ปีนี้ คริปโตมายด์ กรุ๊ป มาในธีม “Build in Bear, Rise in Bull” กับ 3 เวที Genesis, Advance, Activity Stage ที่รวบรวมกว่า 60 sessions และ speaker ทั้งไทยและต่างชาติกว่า 150 ท่าน
งานนี้มีทีมบิทคอยน์ระดับแนวหน้าของประเทศ อย่าง อ. ตั๊ม พิริยะ ฝั่งการเงินก็ไม่น้อยหน้า นำทีมโดย อ. โฉลก ทั้งฝั่งภาครัฐก็มีตัวแทนจากพรรคก้าวไกล คุณเอิร์ธ ปกรณ์วุฒิ แถมหัวข้อแต่ละ session น่าสนใจจริง ๆ ทั้ง เงินดิจิทัล, DeFi, การทำกำไรในแต่ละภาวะตลาด, เตรียมรับมือ Bullrun ไปด้วยกัน
จัดไปจุก ๆ กับงานทั้ง 2 วัน วันที่ 11 และ 12 พ.ย.นี้ ที่สามย่านมิตรทาวน์ แล้วไปพบกันที่งาน Blockchain Genesis, Thailand Blockchain Week 2023!!
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ย. 66)
Tags: Blockchain, Cryptocurrency, CryptoShot, SEC, การเงิน, คริปโทเคอร์เรนซี, ตลาดหลักทรัพย์, สหรัฐ, สินทรัพย์ดิจิทัล