หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์อิงบวกตามตปท. เกาะติดงบ Q3/66-รอความชัดเจนดิจิทัลวอลเล็ต

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์อิงแดนบวก หลังเมื่อวานพักตัวและเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่บวกต่อเนื่อง และตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดมาส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น จาก Bond Yield ที่ปรับตัวลง จากตลาดคาดเฟดจะยุติขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ประกอบกับประเด็นอิราเอลและกลุ่มฮามาสตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักมากในช่วงนี้ ทำให้ไม่เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่ตลาดรอดูงบการเงินในไตรมาส 3/66 และความชัดเจนดิจิทัลวอลเลต พร้อมให้แนวต้าน 1,415 จุด แนวรับ 1,400 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์อิงแดนบวก หลังจากเมื่อวานตลาดหุ้นไทยพักตัว ประกอบกับตลาดหุ้นต่างประเทศเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นได้ต่อ และเช้านี้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเปิดมาส่วนใหญ่เคลื่อนไหวแดนบวก จากปัจจัยหนุนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) ที่ปรับตัวลงมา

โดยที่ตลาดยังมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ประกอบกับประเด็นความขัดแย้งของอิสราเอลและกลุ่มฮามาสตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักมากในช่วงนี้ ทำให้ไม่เป็นปัจจัยที่เข้ามากดดันตลาดมาก

ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามยังคงเป็นการทยอยประกาศผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3/66 และรอปัจจัยความชัดเจนเรื่องดิจิทัลวอลเลต พร้อมให้แนวต้าน 1,415 จุด แนวรับ 1,400 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (7 พ.ย.66)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,152.60 จุด เพิ่มขึ้น 56.74 จุด หรือ +0.17%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,378.38 จุด เพิ่มขึ้น 12.40 จุด หรือ +0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,639.86 จุด เพิ่มขึ้น 121.08 จุด หรือ +0.90%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,457.23 จุด เพิ่มขึ้น 185.41 จุด หรือ +0.57% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,650.51 จุด ลดลง 19.65 จุด หรือ -0.11% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,051.15 จุด ลดลง 6.12 จุด หรือ -0.20%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 พ.ย.66) ที่ 1,408.30 จุด ลดลง 8.91 จุด (-0.63%) มูลค่าซื้อขาย 39,372.29 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,472.38 ลบ.

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.45 ดอลลาร์ หรือ 4.3% ปิดที่ 77.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 พ.ย.66) อยู่ที่ 4.31 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.51 แนวโน้มแกว่ง sideway รอปัจจัยใหม่ ตลาดติดตามถ้อยแถลงประธานเฟด

– รัฐบาลเตรียมแถลง ผลงาน 60 วัน “เศรษฐา-แพทองธาร” ฝาก สส.โปรโมต “เงินดิจิทัล” จับตาแถลง 10 พ.ย. ด้าน”ภูมิธรรม” ปัดศึกเกาเหลา “พาณิชย์-อุตสาหกรรม” ปมอ้อยน้ำตาล ย้ำต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ขณะที่พรรคก้าวไกล “ชัยธวัช” อุ้ม” เบญจา” ปัดเอี่ยวส่วยบ่อขยะปราจีนบุรี มติเอกฉันท์ 128 เสียงขับ “ไชยามพวาน” พ้นพรรค ส่วน กมธ.รับลูกสอบปมฉาวส้ม 22 พ.ย.

– นายกฯ สั่งเร่งเหมืองโปแตช เปิดทางผู้เล่นรายใหม่หากเจ้าของสัมปทานเดิมไม่สามารถเปิดหน้าเหมืองได้ ขณะสมาคมปุ๋ยเผยไทยนำเข้าปีละ 4 ล้านตัน ปัจจุบันราคาทรงตัว ผลภัยแล้งขณะราคาหุ้นเหมืองแร่พุ่ง

– อีอีซียังเนื้อหอม ทุนจีนผลิตรถอีวีเลือกปักหลัก ลงทุนในนิคมฯ โรจนะหนองใหญ่ เทงบ 1 หมื่นล้านบาท ผลิตมอเตอร์ไซค์อีวี 1.5 แสนคันต่อปี เริ่มนำร่องทำตลาด 3 จังหวัดอีอีซี

 

หุ้นเด่นวันนี้

– TU (กรุงศรี) แนะนำ ซื้อ เป้า BB Consensus 16.8 บาท ผลกำไรผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว TU ประกาศงบ 3Q23 มีกำไรสุทธิ 1.2 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 17%qoq และมากกว่าที่ Consensus คาดกันไว้ที่ 1.1 พันล้านบาท ปรับขึ้นเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณในดัชนี MSCI รอบใหม่ (ประกาศ 14 พ.ย.23)

– DOHOME (ลิเบอเรเตอร์) แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท รายงานกำไร 3Q23 ที่ 91 ล้านบาท (+80%y-y, +130%q-q) ดีกว่าตลาดคาด 13% จากอัตราการทำกำไรที่สูงกว่าคาด โดย GPM ที่ 15.5% ปรับตัวขึ้นในทุกกลุ่มสินค้า ด้าน SSSG ค่อยๆมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยคาด 4Q23 จะเห็น SSSG กลับมาเป็นบวกได้ จากความต้องการที่มากขึ้น และอาจมีการบวกกลับสำรองความเสียหายน้ำท่วมเข้ามาในงบ 4Q23 อีกด้วย

– BA (กสิกรไทย) แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 22.16 บาท คาดกำไรแข็งแกร่งในไตรมาส 3/66 ที่ 2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 193% QoQ และเพิ่มขึ้นจากขาดทุนสุทธิ 393 ล้านบาท ในไตรมาส 3/65 จากช่วงไฮซีซันของเกาะสมุย การบริหารจัดการ route บินทำให้ค่าตั๋วเฉลี่ยดีขึ้น และกำไรทางภาษีรอการตัดบัญชีจากการจำหน่ายเงินลงทุนใน BDMS จำนวน 1.3 พันล้านบาท ทั้งนี้ประเมินหากราคาน้ำมันลดลงทุกๆ US$5/bbl จะหนุนกำไร BA เพิ่ม 5% ต่อปี ราคาหุ้น BA ลดลง -15% เทียบ SET Index ที่ลดลง -10% ในช่วงเดียวกันนับแต่สิ้นเดือน ส.ค.66

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top