เงินบาทเปิด 35.51 อ่อนค่าเล็กน้อย จากแรงซื้อดอลล์กลับ คาดกรอบ 35.40-35.65

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 35.51 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อน ค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.46 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค เนื่องจากดอลลาร์ฟื้นตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลัก หลัง ปรับตัวอ่อนค่าไปมาก โดยมีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามา และบอนด์ยีลด์ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ขณะที่เริ่มมีกระแสเงินทุนต่างประเทศ (Flow) ไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดพันธบัตรมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลไม่ให้เงิน บาทอ่อนค่าไปมาก “บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ ตามภูมิภาคหลังดอลลาร์ฟื้นตัวกลับมาแข็งค่า แต่บาทคงไม่อ่อนค่าไปมาก เพราะเริ่มมี Flow ไหลกลับเข้ามาลงทุนในพันธบัตรมากขึ้น” นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.40 – 35.65 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 150.06 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 149.63 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0711 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0753 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 35.433 บาท/ ดอลลาร์

– “จุลพันธ์” รมช.คลัง เผยนายกฯ เตรียมแถลง สรุปแจกเงินดิจิทัลด้วยตัวเอง 10 พ.ย. พร้อมรายงาน ครม.รับ ทราบวันนี้ ไม่ขัดข้องจ่ายผ่านแอปเป๋าตัง ส่วนแหล่งเงินใช้จากงบประมาณ ไม่เป็นอุปสรรคร้านค้าไม่เข้าร่วม “ทีดีอาร์ไอ” มองเป็น โอกาสดีที่รัฐบาลจะนำข้อเสนอแนะจากหลายฝ่ายมาพิจารณาจะใช้เงิน 5.6 แสนล้าน ให้เกิดประโยชน์มากสุด

– นายกฯ เร่งคณะทำงานศึกษาปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ-ค่าแรงขั้นต่ำ ต้องรายงานความเป็นไปได้สิ้นเดือน พ.ย. นี้ ขอฟัง รมว.แรงงานอีกครั้ง หลังระบุอาจไม่ได้ 400 บาททุกพื้นที่ “ปานปรีย์” ขีดเส้น 3 สัปดาห์ได้ข้อสรุปผลศึกษา 2 กรณี “พิพัฒน์” สั่งสำรวจ ความต้องการค่าแรงทั่วประเทศภายใน 17 พ.ย. ก่อนถกไตรภาคี นำเสนอครม. พิจารณา

– พาณิชย์ ยันไร้กังวลเงินฝืด ไม่มีสัญญาณลบ หลังเงินเฟ้อไทยเดือน ต.ค. 66 ติดลบ 0.31% ติดลบครั้งแรกในรอบ 25 เดือน จากมาตรการลดค่าครองชีพรัฐบาล มองแนวโน้มเดือน พ.ย. ลดลงต่อเนื่อง หลังราคาสินค้ายังปรับลงอีก พร้อมคาดทั้งปี นี้เงินเฟ้อทรงตัว 1.35% ชี้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (6 พ.ย.) โดยดอลลาร์ปรับตัวในกรอบแคบ

– นางลิซา คุก หนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ระบบการเงินของสหรัฐยังคงมี ความแข็งแกร่ง พร้อมเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงจากสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร ได้แก่ เฮดจ์ฟันด์ และตลาดตราสารทางการ เงิน ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการขยายความตึงเครียดที่เกี่ยวข้องกับภาวะการเงินที่ตึงตัว และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

– นักลงทุนจับตาการกล่าวถ้อยแถลง 2 ครั้งของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใน สัปดาห์นี้เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดในสัปดาห์นี้ ด้วย เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนธ.ค

– นักลงทุนให้ความสำคัญกับการประมูลพันธบัตรของกระทรวงการคลังสหรัฐ เพื่อประเมินทิศทางของอัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

– ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่เปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดุลการค้าเดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

– ค่าจ้างที่แท้จริงของญี่ปุ่นลดลงในเดือนก.ย. เป็นเดือนที่ 18 ติดต่อกัน ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคก็ลดลงหลาย เดือนติดต่อกัน เนื่องจากราคาที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของครัวเรือน และมีแนวโน้มเพิ่มแรงกดดันจากกลุ่มแรงงานเพื่อให้มี การปรับขึ้นค่าจ้าง ตลาดการเงินทั่วโลกให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด กับแนวโน้มค่าจ้างในญี่ปุ่นซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของ โลก ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ถือว่าการปรับขึ้นค่าจ้างเป็นปัจจัยสำคัญต่อการยกเลิกนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top